(เรื่องเตือนใจ) หากเป็นหนี้ อ ย่ า ข ี้เหนียว แค่บาทเดียวก็ เ ว ร ก ร ร ม
คำโบราณคำนี้ที่ว่า เป็นหนี้ อ ย่ า ข ี้เหนียว บาทเดียวก็ เ ว ร ก ร ร ม เป็นหนี้ อ ย่ า ข ี้เหนียว สลึงเดียวก็ เ ว ร ก ร ร ม เป็นหนี้ อ ย่ า ข ี้เหนียว สตางค์เดียวก็ เ ว ร ก ร ร ม อาตมาก็ลองมาพิจารณาต่อว่า แล้วมันเป็น เ ว ร ก ร ร ม ของใคร
เป็น เ ว รก ร ร ม ของคนที่ให้เค้ายืมไป หรือว่าเป็น เ ว ร ก ร ร ม ของคนที่ยืมเค้าแล้วไม่ใช้ แน่นอนโยม คนที่ยืมเค้าไปแล้วไม่ยอมใช้เค้าเนี่ย ถ้าเจตนาเบื้องต้นของเค้าไม่ดีนะ คือเค้าคิดตั้งแต่แรกแล้วว่ายังไงเค้าก็ไม่คืนแน่ๆ
หาอุบายยืมไว้ก่อน ถ้าขอก็คงไม่ให้ ถ้าขโมยก็คงไม่ดี งั้นยืม แกล้งยืมก่อน เจตนาเค้าไม่ดีตั้งแต่ต้น เจตนาเค้า ส ก ป ร กเลย ไม่ดีเลย และถ้าตลอดเวลาในการคิดของเค้าเนี่ย ยังไงก็ไม่คืน ไม่คืน ไม่คืน แกจะคิดยังไง แกจะไม่มีใช้
ยังไงฉันก็ไม่คืน ไม่คืนเจตนาของเค้าเนี่ย มันเป็นกำลังจิตที่มีกำลังแรง มันก็เป็น เ ว ร ก ร ร ม แรง สำหรับคนที่คิดแบบนี้ แต่ถ้าคิดจะคืนตั้งแต่แรก แต่ว่าเค้าไม่มีกำลังที่จะคืนจริงๆ แล้วที่เขาไม่มาพบหน้า พบตาเพราะกลัว
กลัวว่าถ้าเจอหน้ากัน เดี๋ยวเค้ามาตาม มาทวง แล้วมาด่าเรา ถ้าเราทนไม่ไหว แล้วด่ากลับ มันก็จะเป็น เว ร ก ร ร ม แรงไป คือบางทีเค้ามีเหตุผลของเค้าว่า เค้า อ ย า ก คืน แต่เค้าไม่มีจะคืนจริงๆ เค้าเลยหลบหน้า อันนี้จริงๆ มันก็ไม่ดี
แต่มันก็ยังไม่ใช่เจตนาที่ รุ น แ ร ง แต่มันเป็น เ ว ร ก ร ร ม ของใครอีก ลองพิจารณาต่อไปว่า คนที่ให้ยืมไปเนี่ย ดูเหมือนจะเป็นต่อนะ แต่ถ้าในใจเค้าคิดตลอดเวลาเลยว่า แกไม่ยอมคืนเงินฉันนะ ขอ ส า ปแ ช่ งให้แกเกิดกี่ชาติ ก็เป็นวัวเป็น ค ว า ย
มาไถนาใช้หนี้ฉันนะ เป็นช้างเป็นม้า มาลากซุงให้ฉันนะ หรือให้ฉันขี่นะ มาเป็นคนรับใช้บ้านฉัน ให้ฉันจิกหัวใช้ให้หนำใจทีเดียว ฉัน แ ค้ น แก สาปแช่งแก ขอให้แกจงวิบัติ โน่นนี่นั่น จิตใจของคนที่ให้ยืมไปเนี่ย เลยมีมวลของควา มโ ห ด ร้ า ย
อยู่ในจิต คือกฎธรรมชาติเค้าก็คงไม่สนใจหรอกโยม ใครเป็นคนยืม ใครเป็นคนให้ใครยืม แต่เค้าสนใจมากกว่าว่า จิต ด ว ง ไหนที่มันสกปรกกว่ากัน จิต ด ว ง ไหนที่มันไม่สะอาด จิต ด ว ง ไหนที่มันมีความขุ่นมัวเศร้าหมองมากกว่ากัน พระพุทธเจ้า
จึงตรัสว่า จิตเต สังกิลิฏเฐ ทุคติปาฏิกังขา เมื่อจิตเศร้าหมองก็ไปสู่ทุคติ งั้นใครเศร้าหมองกว่ากัน คนที่ให้ยืมไปแล้ววางใจไม่ได้ ตัดใจไม่ได้ หรือคนที่ยืมแบบมีเจตนาไม่สะอาด ไม่บริสุทธิ์ก็พิจารณาแล้วกันนะโยมว่า ใจใครสกปรกกว่ากัน
ใจใครไม่สะอาดกว่ากัน แล้วก็ทำจิตของเราให้ดี ถ้าหากว่าเขายืมแล้วไม่ใช้ บางทีวางใจได้ ก็ต้องวาง รั ก ษ า ใจเราไว้ ส่วนคนที่ยืมไป ควรที่จะต้องใช้เค้า และควรจะมาพูดคุยกันดีๆ มากกว่าที่จะหลบหน้า หลบตา ขอเจริญพร
ขอขอบคุณที่มา พระศักดา สุนทโร, aanplearn