Home แนวคิดชีวิต (เรื่องเตือนสติ) อย่าทะนงตัวคิดว่าตัวเองเป็นม้าพันลี้

(เรื่องเตือนสติ) อย่าทะนงตัวคิดว่าตัวเองเป็นม้าพันลี้

6 second read
0
490
(เรื่องเตือนสติ) อย่าทะนงตัวคิดว่าตัวเองเป็นม้าพันลี้

(เรื่องเตือนสติ) อ ย่ า ทะนงตัวคิดว่าตัวเองเป็นม้าพันลี้

มีเรื่องเล่าอยู่ว่า ที่เมืองแห่งหนึ่ง มีม้าหนุ่มอยู่ตัวหนึ่งที่มีชื่อเสียง เป็นที่เลื่องลือไปไกลบ้างก็เล่าว่า มีความแข็งแกร่งกว่าม้าทั่วไป บ้างก็ว่าวิ่งเร็วกว่าม้าทุกตัวที่บนโลกนี้ เคยมีมาบ้างก็ว่าเป็นม้า ที่สามารถอยู่ท่ามกลาง

สนามรบโดยไม่ แสดงอาการตื่นกลัวใดๆ บ้างก็ว่าสามารถวิ่ง ได้ระยะทางเป็นพันลี้ โดยที่ไม่เหน็ดเหนื่อย หรือ ไม่ต้องหยุดพักเลย หนึ่งลี้เท่ากับ 0.5 กิโลเมตร พันลี้ก็ประมาณ 500 กิโลเมตรเฉกเช่นเดียวกัน

ม้าตัวนี้ก็รู้ว่าตัวเองนั้น มีความสามารถมาก ใครๆต่างก็ต้องการมันมันจึงรอใ ห้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และ ดีพร้อมเทียบเท่ามัน จึงจะยอมให้ขี่มันในระหว่างที่ รอคนที่ม้าคิดว่าเหมาะสม ก็ได้มีผู้คนมากมาย

เข้ามาหาพ่อค้า ที่เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ เห็นว่าม้าตัวนี้เหมาะสมกับตน เพราะ ต้องเดินทางค้าขายระยะทาง ไกลๆหากได้มาเป็นม้าคู่ใจคงดี จึงได้เข้ามาหาม้าตัวนี้ และ ถามว่า เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่

ม้าพันลี้ส่ายหัว และตอบว่า ม้าฝีเท้าดีๆแบบข้า ทำไมจะต้องยอมไป กับพ่อค้าธรรมดา อ ย่ า ง เจ้าด้วยละ นายพรานหนุ่ม ผู้ชำนาญดด้านการเดินป่า ได้เข้ามาหาม้าตัวนี้ และถามว่า เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่

ม้าพันลี้ส่ายหัว และตอบว่า ข้าเป็นถึงม้าพันลี้ ทำไมต้องไปทำงาน หนักรับใช้นายพรานแบบเจ้าด้วยล่ะ เช่นเดียวกัน นาย ท  ห า ร ที่มี ชื่อเสียงโด่งดัง ออกศึกมามากมาย ชนะศึกมานับครั้งไม่ถ้วน ก็ อ ย า ก ได้ม้าตัวนี้

ไว้เป็นม้า คู่ใจในสนามรบ จึงมาหาม้าตัวนี้และถามว่า เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่ ม้าพันลี้ส่ายหัว และตอบว่า เจ้าเป็นแค่ ท ห า ร ธรรมดา ทำไมข้าจะต้องไปรับใช้ คนแบบเจ้าด้วยล่ะ เวลา ผ่ า น ไปเนิ่นนานหลายปี

ม้าพันลี้ตัวนี้ก็ยังคงหยิ่งทนง และ รอคอยเจ้านายที่ใฝ่ฝันเ หมือนเช่นเคยถึงแม้ที่ ผ่ า น มา จะมีผู้คนจำนวนมาก เข้ามาหา แต่เจ้าม้าพันลี้ตัวนี้ ก็ได้แต่ปฎิเสธไม่ยอมรับใช้ใครเลยข่าว ความเก่งกาจสามารถ ของม้าพันลี้ตัวนี้

ได้แพร่กระจายไป จนไปถึงในตัวเมือง ข่าวไปถึงในวังหลวง พระราชาจึงมีรับสั่งให้ขุนนางไป ตามหาม้าพันลี้ตัวที่ว่านี้ไม่นาน ขุนนางพบกับม้าพันลี้ ก็ได้แนะนำตัว และ ไถ่ถามเมื่อม้าพันลี้รู้ว่า คนที่มาหาตนเป็น ถึงขุนนางชั้นสูง

และ ตนจะได้เป็นม้าในวัง จะได้รับใช้พระราชา คนที่ม้าคิดว่าเหมาะสมกับตนเอง คนที่ตนรอคอยมานาน แสนนานมาพันลี้ จึงได้พูดกับขุนนางว่า ข้าคือม้าพันลี้ ที่ท่านตามหาอยู่ แต่ก่อนที่ขุนนาง จะพากลับไปในวัง

จึงได้ถามม้าพันลี้ว่า เจ้าเชี่ยวชาญเส้นทาง ในประเทศเราไหม ม้าพันลี้ตอบว่า จำไม่ค่อยได้ เพราะ ตลอดเวลาที่ ผ่ า น มา ข้าอยู่กับที่ ไม่ได้เดินทางไปไหนนานมากแล้ว ขุนนางก็เลยถามต่อ เจ้าเคยเข้าป่า

เพื่อให้คนขี่ใช้วิ่ง ล่ า สั ต ว์ ไหม ม้าพันลี้ตอบว่า ไม่ ข้าไม่ใช่ม้าธรรมดา ที่จะให้นายพราน มาใช้งานหรอก ขุนนาง ก็เลยถามต่อ เจ้าเคยมีประสบการณ์ในสมรภูมิรบ ครั้งล่าสุดเมื่อไร ม้าพันลี้ตอบว่า ข้าพอจำได้ลางๆว่า

ได้ยินเสียงดาบ เสียงคนโห่ร้อง ตอนสู้รบกัน ขุนนางก็เลยถามต่อว่า เจ้ารู้จักปืนใหญ่ในสนามรบไหม สมัยนี้เค้าพัฒนา ไปไกลแล้ว มีการใช้ปืนใหญ่กันในสนามรบด้วย เสียงมันดังมากนะ เจ้าจะตกใจไหม ถ้าได้ยินเสียงของมัน

ม้าพันลี้ตอบว่า ข้าเคยออกรบ มานานมากแล้ว ข้าจึงไม่รู้ว่าเสียงปื นใหญ่เป็นเช่นไร ขุนนาง เลยพูดขึ้นว่า แล้วข้าจะเอาเจ้าไปใช้ ประโยชน์อะไรได้อีก  ม้าพันลี้บอกว่า ข้าวิ่งเวลากลางวันได้ วันละ พันลี้ กลางคืน

ห้าร้อยลี้ ขุนนางจึงให้ม้าพันลี้ ลองวิ่งให้ดู เพื่อทดสอบความแข็งแรง และความเก่ง ที่เขาล่ำลือกันเมื่อม้าพันลี้ เริ่มออกวิ่ง มันรู้สึกถึงความภาคภูมิใจ ที่จะได้โชว์ความสามารถ ของตัวเองสักที แต่พอมันออกวิ่งไปได้

ไม่กี่ก้าว มันก็หอบหายใจ เหนื่อยซะแล้วขุนนาง จึงพูดขึ้นว่า เมื่อก่อนตอนหนุ่ม เจ้าคงจะเก่งมากจริงๆ ตามที่คนล่ำลือกันไว้ แต่ตอนนี้เจ้าอายุมากแล้ว สภาพ ร่ า ง ก า ย ก็เสื่อมไป ตามกาลเวลา ถ้าข้าเอาเจ้าไป

คงใช้ประโยชน์ อะไรไม่ได้แถม ยังเปลืองหญ้าอีก หลังจากพูดจบขุนนางก็ตัดบท เดินหันหลังจากไปในทันที ในขณะที่ม้าพันลี้ยังไม่ หายเหนื่อยหอบจากการทดสอบวิ่ง และ ไม่ทันได้พูดตอบโต้แก้ตัวใดๆ

นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า อ ย่ า ทำตัวเป็น ม้าพันลี้  อ ย่ า ถือดี อวดเบ่ง อ ย่ า คิดว่าตัวเองเหนือกว่า ใครๆมีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ ด ว ง อาทิตย์มีเวลาขึ้นสูงสู้ฟ้า ก็มีเวลาร่วงหล่นลงมา ของมันเช่นกันทุก อ ย่ า ง

แปลเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่มีอะไรอยู่คงทน แม้แต่ความสามารถ เมื่อก่อนเราอาจจะเก่ง แต่สักวันก็ต้องมีคนมาแทนที่เรา จนได้หากเรายิ่งหลงทะนงตน ไม่ยอมฝึกฝน หรือหาประสบการณ์ ใหม่ๆให้ตัวเอง

จะยิ่งทำให้เราหยุดอยู่ กับที่ในขณะที่อีกคน รู้ว่าตัวเองไม่เก่งเท่าคนอื่น จึง พ ย า ย า ม ฝึกฝน หาความรู้อยู่ตลอดเวลาสุดท้าย เขาก็จะพัฒนามา เทียบเท่า และ แซงหน้าไปในที่สุด เพราะ ฉะนั้น

จง อ ย่ า ประมาทในการใช้ชีวิต อ ย่ า ประเมินความสามารถ คนอื่นต่ำเกินไป อ ย่ า ประเมินความ สามารถของตนเอง ว่าข้าแน่ ข้าเก่ง

ขอขอบคุณที่่มา bitcoretech, verrysmilejung

Check Also

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า 1 งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ แม้ไม่ใช่งาน ในค…