Home แนวคิดชีวิต เรื่องจริงในสังคม พ่อแม่ยิ่งแก่ยิ่งเป็นห่วงลูก แต่ลูกๆยิ่งโตยิ่งเหินห่าง

เรื่องจริงในสังคม พ่อแม่ยิ่งแก่ยิ่งเป็นห่วงลูก แต่ลูกๆยิ่งโตยิ่งเหินห่าง

6 second read
0
3,132
เรื่องจริงในสังคม พ่อแม่ยิ่งแก่ยิ่งเป็นห่วงลูก แต่ลูกๆยิ่งโตยิ่งเหินห่าง

เรื่องจริงในสังคม พ่อแม่ยิ่งแก่ยิ่งเป็นห่วงลูก แต่ลูกๆยิ่งโตยิ่งเหินห่าง

อ ย่ า ไปกังวลว่า ถ้าคุณจากไป อะไรจะเกิดขึ้น เพราะเมื่อกลายเป็นผงธุลีไปแล้ว

ใครเขาจะยกย่อง ชื่นชมหรือตำหนิ ประณาม อ ย่ า ง ไร คุณจะไปรู้สึก รู้สาอะไรได้

ลูกของคุณเขาจะเป็น อ ย่ า ง ไร ก็ อ ย่ า เป็นห่วงให้มากนัก พวกเขา ต่างก็มีจุดหมาย

และหนทาง ชีวิตของตนเอง ต า ย ไปแล้ว คุณก็ยังไม่เลิก เป็นทาสของลูกๆ อีก

หรือ อ ย่ า คาดหวังอะไรมากจาก เ ด็ ก ๆ ต่อให้คุณชุบเลี้ยงใคร ไว้ดูแลคุณ

ย า ม แก่เฒ่า เขาก็ต้องวุ่นวายกับ การงานและภาระผูกพันต่างๆ เกินกว่าจะมีเวลา

มาช่วยเหลือ ดูแลอะไรคุณได้มากนัก ส่วนลูกจริงๆ นั้น ก็อาจจะกำลัง ทะเลาะกัน

เพื่อแย่งทรัพย์สมบัติ ของคุณอยู่ทั้งๆ ที่คุณยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ ดีขึ้นมาหน่อย

ก็อาจจะแค่แอบ ภาวนาให้คุณ อ ย่ า ใช้เงินให้มาก และรีบจากไปเสียเร็วๆ อ ย่ า ง นี้

ก็มีให้เห็นอยู่ถมไป คุณไม่รู้หรอกหรือว่า บรรดา ลูกๆ เขาถือว่า ทรัพย์สมบัติของ

คุณเป็นสิทธิ์ขาด ของเขาไปแล้ว คุณจึงไม่มีสิทธิ์ จะไปกำหนดอะไร ได้เลย ในเงิน

ที่เป็นของเขา เข้าใจไหม คนอายุเกิน ๖๐ อ ย่ า ง คุณ ต้องเลิกเอา สุขภาพไปแลกกับ

ความร่ำรวยได้แล้ว มีเงินเท่าไร ก็ซื้อสุขภาพคืนมาไม่ได้ คุณตอบได้ไหมว่า จะหยุดหาเงิน

เมื่อใด เท่าไหร่คุณถึงจะบอกว่า พอแล้ว ร้อย พัน หมื่น ล้าน สิบล้าน พอรึยังไม่ทราบ

ต่อให้คุณมีไร่นานับพันไร่ คุณก็กินข้าวได้แค่ วันละสามจาน แม้นมีคฤหาสน์นับพันหลัง

คุณก็ต้องการพื้นที่หลับนอน ย า ม ค่ำคืนเพียงแปดตารางเมตร ดังนั้นตราบใด

ที่คุณยังมีข้าว ปลาอาหารกิน อ ย่ า ง เพียงพอ มีเงินพอใช้สอยได้ทุกวัน เพียงเท่านี้ก็ดี

เหลือหลายแล้ว อายุเท่านี้แล้ว คุณควรอยู่ อย่ างเป็นสุข ทุกบ้านต่าง ก็มีปัญหา

ของตนเอง อ ย่ า มัวไปคิดเปรียบเทียบ แก่งแย่งแข่งดีกัน ไม่ว่าชื่อเสียง ฐานะในสังคม

หรือความก้าวหน้าของ เ ด็ ก ๆ ฯลฯ สิ่งที่ควรจะแข่งกัน ท้ากันจริงๆนั้น คือแข่งกัน

มีความสุข แข่งกันมีสุขภาพดีและอายุ ยืนนานส่วนอะไร ที่เราเปลี่ยนมันไม่ได้

ก็ อ ย่ า ไปฝังอกฝังใจให้ป่วยการ และทำ ล า ยสุขภาพตัวเองเลยอายุ ป่านนี้แล้ว

ก็ยังเปลี่ยนมัน ไม่ได้เลย หลัง ๖๐ แล้ว อ ย่ า ง นี้ คุณต้อง ค้นหาหนทาง ของคุณเอง

ที่จะสร้างชีวิตที่เป็นอยู่ดีๆ และสุขสดใสขึ้นมาให้ได้ ตราบใดที่มันทำให้ คุณอารมณ์ดี

คิดถึงแต่สิ่งที่ ทำให้เป็นสุขทำอะไรก็สุขสนุก กับมันอยู่ทุกวัน นั่นก็หมายความว่า

คุณได้ ผ่ า น วันเวลา อ ย่ า ง เป็นสุขแล้ว ทุกวันวานที่ ผ่ า น ไป คุณจะสูญ เสีย

ไป ๑ วัน แต่ถ้ามัน ผ่ า น ไป อ ย่ า ง เป็นสุข วันนั้นคือกำไรชัดๆ เลย

จิตใจที่ดี จะช่วย รั ก ษ า โ ร ค ภั ย ได้ ถ้าจิตใจเป็นสุข โ ร ค ก็จะหายเร็วขึ้น

แต่ถ้าจิตใจทั้งดี ทั้งเป็นสุขด้วยแล้วล่ะก็ ความ เ จ็ บ ป่ ว ย จะไม่มีทางมาแผ้วพานได้

ด้วยอารมณ์ที่ดี แจ่มใสอยู่เป็นนิจ ออกกำลังกายให้เพียงพอ อยู่กลางแจ้งบ่อยๆ

กินอาหาร ให้ครบ ห มู่ ได้วิตามินและแร่ธาตุ อ ย่ า ง เพียงพอ เพียงเท่านี้ก็

เชื่อได้แน่นอนว่า ชีวิตที่เป็นสุข อีก ๒๐ หรือ ๓๐ ปี จะเป็นของ คุณแน่นอน เหนือสิ่งอื่นใด

คุณต้องรู้จัก บ่มเพาะและเก็บเกี่ยว ความสุขดีๆ จากการได้อยู่ ได้เที่ยว ได้คุยกับเพื่อนๆ

เพราะเขาเหล่านี้ จะช่วยให้คุณ รู้สึกเย าว์วัย และมีความหมายอยู่เสมอ ขาดพวกเขา

เมื่อใด คุณจะต้องรู้สึกสูญเสีย อย่ างแน่นอนครับ อ่านแล้วเห็น เฉลียงชีวิต

ในวัย ช ร า กันบ้างมั้ย ก็ต้องขอบคุณ ทั้งเจ้าของความ คิด ผู้เผยแพร่ และทั้งผู้ส่ง

ให้ผม อ่าน ก็ อ ย า ก บอกว่า อายุเราเลือกไม่ได้ก็จริง แต่ชีวิตแต่ละช่วงชีวิต เราเลือกได้

ขอขอบคุณที่มา เปลว สีเงิน, kubkhao

Check Also

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า 1 งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ แม้ไม่ใช่งาน ในค…