10 วิธี ที่ควรจะทำเมื่อคุณตกงาน
1 ควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้
แน่นอนล่ะว่าคงไม่มีใคร สามารถทำให้ตัวเองใจเย็น ได้หลังจากที่รู้ว่าตัวเอง
ต้องตกงาน แต่การควบคุมอารมณ์ ให้ได้มากที่สุดก็เป็น หนึ่งวิธีที่จะทำให้
คุณตั้งสติได้ไวขึ้น และรู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป แม้ว่าในตอนนั้นอาจจะ
เต็มไปด้วย ความรู้สึกโกรธ ผิดหวัง เสียใจ ท้อแท้ แต่ก็มีแค่คุณเท่านั้น
ที่จะช่วยพยุงตัวเอง ให้ลุกขึ้นมาได้ใหม่ ฉะนั้นดึงสติตัวเองกลับมาเดี๋ยวนี้เลย
รับรองว่าจะได้มองเห็นหนทางดี ๆ ที่ตอนแรกคุณอาจจะมอง ไม่เห็น อ ย่ า ง แน่นอน
2 รั ก ษ า สิทธิ์ของตัวเอง
ถึงแม้จะถูกเลิกจ้าง แต่ก็ใช่ว่าคุณจะ ไม่มีสิทธิ์ในฐานะลูกจ้าง คุณไม่ควรปล่อยให้
ทุก อ ย่ า ง จบไปโดยตัวเองเสียเปรียบ กลับไป อ่ า น สัญญาการว่าจ้างที่คุณ
เคยเซ็นตอนเริ่มงาน และกลับมาถามในสิ่งที่คุณพึงได้ จากการออกจากงาน
ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ใบรับรอง ผ่ า น งาน กองทุนสำรอง เงินสะสม ประกัน
สุ ข ภ า พ หรือเงินชดเชย ควรถามให้ละเอียด เพราะไม่มีใครสามารถ
รั ก ษ า สิทธิ์ของคุณได้ดีเท่ากับ ตัวเองแน่นอน
3 อ ย่ า มัวตำหนิคนอื่น แต่จงมองข้อผิดพลาดของตนเอง
หลาย ๆ คนที่ถูกไล่ออกจาก งานก็มักจะเอาแต่คิด และตำหนิหัวหน้าหรือที่ทำงานเก่า
รวมทั้งมองหาข้อผิดพลาด ของพวกเขาเหล่านั้นเพื่อ เป็นการปลอบใจตัวเอง
แต่ถ้าทำแบบนั้นคุณ จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และถ้าหากได้งานใหม่ก็อาจจะ
ทำให้คุณมีจุดจบแบบเดิม ๆ ดังนั้นหยุดอวยตัวเอง หันมามองถึงข้อผิดพลาด
ของตนเอง นำข้อผิดพลาดเหล่านั้นมาเป็นบทเรียน และปรับปรุงตัวเองเพื่อรอรับสิ่งใหม่ ๆ กันดีกว่า
4 ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน
แม้ว่าสุดท้ายระหว่าง คุณกับที่ทำงานจะจบ กันไม่สวย แต่ก็ไม่ใช่เหตุผล
ที่คุณจะ ไม่ไยดีในสิ่งที่ ผ่ า น มา ลองใช้เวลานึก ทบทวนในสิ่งดี ๆ
ที่เคยได้รับจากหัวหน้า และเพื่อนร่วมงานแล้ว เขียนอีเมลส่งไปขอบคุณ
พวกเขา แม้ว่าในที่สุดจะไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว แต่บางที
การคงเหลือมิตรภาพ ในฐานะคนธรรมดา คนหนึ่งก็ย่อมดีกว่า
และไม่แน่ว่าในวันหนึ่ง เพื่อนร่วมงานอาจจะ เป็นคนหยิบยื่น
โอกาสใน การทำงานดี ๆ ให้คุณก็ได้นะ
5 เช็กสิทธิประกันสังคม
สำหรับผู้ประกัน ตนมาตรา 33 ที่ทำงานมาเป็นเวลานาน ๆ หลายปี หากวันหนึ่ง
คุณต้องออกจากงาน แบบกะทันหัน สิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรก
ก็คือตรวจสอบสิทธิที่พึง ได้รับจากสำนักงาน ประกันสังคม อันเป็นสิทธิขั้น
พื้นฐานของคน ทำงานเกือบทุกคน ทั้งนี้ ควรจะเช็กว่า ตัวเองจะได้รับ
การคุ้มครอง เรื่องการ รั ก ษ า พ ย า บ า ล ถึงเมื่อไร ซึ่งโดยปกติแล้วก็จะได้รับ
การคุ้มครองต่อไปอีก 6 เดือน นอกจากนี้ควรรีบไป ขึ้นทะเบียนคนว่างงาน
ภายในระยะเวลา 30 วัน ตั้งแต่ออกจากงานด้วย เพราะตามเงื่อนไข
ของประกันสังคม ผู้ที่ส่งเงินสมทบติดต่อกัน 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน
ก่อนว่างงาน จะสามารถขึ้น ทะเบียนคนว่างงาน และรับเงินชดเชยได้
6 ขึ้นทะเบียนกับกรมจัดหางาน
หากกำลังอยู่ ในช่วงสุญญากาศ จะหางานใหม่ก็ ยังหาไม่ได้ จะหาอะไร
ทำเป็นรายได้เสริม ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี ขอแนะนำให้ขึ้น ทะเบียนตนเอง
กับกรมการจัดหางาน หน่วยงานนี้นอกจากเป็นตัว ช่วยในการหางานใหม่
ให้คุณแล้ว ก็ยังมีการฝึกอบรมดี ๆ ที่สามารถไปสร้างเป็นอาชีพได้
โดยสามารถไปขึ้น ทะเบียนกับสำนักงานจัด หางานได้ทั่วประเทศ ไม่แน่นะ
บางทีอาจจะได้ ความรู้ด้านอาชีพใหม่ ๆ หรืออาจจะได้โอกาส
ในการทำงานดี ๆ จากที่นี่ก็เป็นได้
7 ปรับปรุงเรซูเม่
หลายคนเมื่อยังทำงาน อยู่ก็ไม่เคยนึกจะสนใจ กับเรซูเม่ของตนเอง
จนกระทั่งถึงเวลา ที่จะต้องใช้อีกครั้งนี่ล่ะ ดังนั้น หากในวันหนึ่งที่คุณ
เกิดตกงานละก็ ก่อนที่จะเริ่มหางานใหม่ ควรให้เวลากับการปรับปรุง
เรซูเม่อันเดิมเสียก่อน เพิ่มเติมข้อมูล ของงานที่ ผ่ า น มา ไม่ว่าจะเป็นขอบเขต
ของงาน ผลงานที่เคยทำ ถ้าคิด อ ย า ก จะเปลี่ยนแปลง อะไรใหม่ ๆ ก็
อ ย่ า ลืมเติมความสนใจใหม่ ๆ ลงไปด้วย หรือถ้าคิดว่ารูปแบบเรซูเม่ของคุ
ณเริ่มจะล้าสมัยเกินไป ก็ทำขึ้นมาใหม่เลย แล้วส่งใบสมัครไปเรื่อย ๆ
หรือกรอก ใบสมัครตามเว็บไซต์ หางานทั่วไปก็ได้ เท่านี้ก็เป็นการ
เพิ่มโอกาส ให้หางานใหม่ได้ง่ายขึ้น ไปอีกนิดแล้วล่ะ
8 จัดระเบียบรายรับ-รายจ่ายใหม่
เมื่อตอนที่ยังทำงานอยู่ จะใช้จ่ายอะไรก็ดูจะ ไม่ขัดสนมากนัก แต่เมื่อตก
อยู่ในสภาพคน ว่างงานที่ไม่มีรายได้ การใช้เงินแบบเดิม ๆ จะทำให้คุณ
ลำบาก อ ย่ า ง ไม่ต้องสงสัย ดังนั้นควรให้เวลาใน การจดบันทึกรายจ่าย
ที่เคย ผ่ า น มา ดูว่าตรงไหนที่จำเป็น และตรงไหนที่ควรตัดทิ้ง
การรัดเข็มขัด เป็นสิ่งที่ดีที่สุด นอกจากจะช่วยให้คุณ ไม่ลำบากจนเกินไปแล้ว
ก็เป็นการเปลี่ยน นิสัยการใช้เงินใน ร ะ ย ะ ย า ว ด้วย
9 มองหาโอกาสใหม่ ๆ
สำหรับบางคนการ ออกจากงานที่เก่าก็อาจจะไม่ใช่เรื่อง แ ย่ เสมอไป
เพราะมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ทำงานไปในแต่ละวั นโดยที่ไม่ได้ชอบงาน
ที่ทำอยู่จริง ๆ หรือมีความฝันที่จะทำในสิ่งที่ตัวเอง ชอบแต่ไม่มีเวลาจริง ๆ จัง ๆ
เสียที ดังนั้น ใช้เวลานี้ ให้เป็นประโยชน์ ลองหาโอกาสใหม่ ๆ ทบทวน
ความฝันที่เคย พับเก็บไปเพราะการทำงาน นำออกมาปัดฝุ่นแล้วเริ่มทำซะ
ไม่มีอะไร สายไปหรอกนะ ถ้าหากตั้งใ จจะเริ่มทำจริง ๆ
10 ใช้เวลากับตัวเองให้มากขึ้น
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ เคยทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ จนพักผ่อนไม่เพียงพอ
รับประทาน อ า ห า ร ไม่ตรงเวลา หรือไม่มีเวลาแม้ แต่จะออกกำลังกาย
จงใช้เวลาตอนนี้ให้คุ้มค่า อ ย่ า มองว่าเวลาที่ว่างลง เพราะไม่ได้ทำงาน
จะเป็นเรื่อง เ ล ว ร้ า ย คิดเสียว่าตัวเองได้พักผ่อน เพื่อดูแลตัวเองให้มากขึ้น
นอกจากนี้ อ ย่ าป ล่อยให้ ตัวเองอยู่บ้านเฉย ๆ เด็ดขาดแต่ควรหาอะไร
ทำให้ตัวเองไม่ว่าง จะได้ไม่คิดฟุ้งซ่านไงล่ะ เช่น มีงานอดิเรกอะไรที่ชอบทำ
และสามารถนำมาสร้างอาชีพได้ หรือเคยมีอาชีพเสริม อะไรที่ทำแล้วได้เงิน
ถึงเวลาหยิบสิ่ง เหล่านั้นมาหารายได้ อ ย่ า ง จริง ๆ จัง ๆ ซะที แม้การถูกเลิกจ้าง
จะเป็นสิ่งที่เราไม่ อ ย า ก ให้เกิด แต่ก็ อ ย่ า มองโลก ในแง่ ร้ า ย มากจนเกินไป
ทุก อ ย่ า ง ย่อมมีทาง ออกเสมอหากเราตั้งสติได้ไว และนำข้อผิดพลาดเหล่านั้น
มาเป็นบทเรียนสอนให้เรา ไม่ทำผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่ 2 เชื่อว่าถ้าเราสามารถ
ทำสิ่งเหล่านี้ได้แล้ว โอกาสก็ไม่มีวันจะทอดทิ้ง เราไป อ ย่ า ง แน่นอน
ขอขอบคุณที่มา businessinsider, lifehac, verrysmilejung