นิสัย 7 ข้อ ที่จะทำให้คุณเป็นหนี้ได้
1 เลิกใช้ชีวิตแบบหรูหรามากเกินไป
สิ่งนี้เป็นเรื่อง เฉพาะบุคคล สำหรับบางคนแล้วอาจจะ มีทัศนคติต่อเงินว่า
เป็นทาสของคนเรา เมื่อมีเงินแล้วต้องใช้เงินเพื่อใช้ ประโยชน์จากเงินให้เต็มที่
ซึ่งเป็นทัศนคติที่ผิด ที่ทำให้ไม่ระมัดระวังการใช้จ่าย เมื่อเห็นของที่ชอบ
ก็สามารถ ซื้อได้โดยไม่ลังเล เมื่อเป็น อ ย่ า ง นี้บ่อย ๆ ก็จะเริ่มใช้เงินที่หามา
ได้หมดไป อ ย่ า งรวดเร็ว เกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง ยิ่งถ้าใครชอบรูดบัตรเครดิต
ก็ยิ่งมีโอกาส อ ย่ า ง มากที่จะเป็นหนี้ การเป็นหนี้ลักษณะนี้เ กิดจากไม่มีการวางแผน
การใช้เงิน จึงไม่รู้ว่าควรจะใช้เงินเท่าใด เพื่ออะไรทำให้ขาด
ความเฉลียวใจ เวลาใช้เงินซื้อ สิ่งของต่าง ๆ
2 คบเพื่อนประเภทที่ถลุงเงินแบบสิ้นคิด
เราต้องคบกับ เพื่อนที่มีแนวคิดดี ๆ สร้างสรรค์ทั้งการทำงาน การทำเงิน
เก็บออม และลงทุ น มุ่งสร้างเนื้ อสร้างตัว เพราะเพื่อนมีอิทธิพล
ในการบ่ม เพาะนิสัยการเงิน เราก็ควรปฏิเสธบ้าง เมื่อเพื่อนชวนไปเที่ยว
กินอาหารนอกบ้าน เพราะนี่มันกลาย เป็นรายจ่ายก้อนโต ซึ่งจะไปกระทบ
ต่อรายการจ่ายประจำ ในแต่ละเดือนได้เช่นกัน และอีกทั้งการหยิบยืมเงิน
จากเพื่อน แล้วเพื่อน ไม่ยอมคืนเนี่ย ทำให้คุณเกิดความกังวลครุ่นคิด
เป็นฝัน ร้ า ย ที่ควรเลี่ ยงเลยล่ะ เราก็ต้องพิจารณาก่อนว่า เงินที่ยืมไปนั้น
ได้นำไปช่วยใน เรื่องที่มีความจำเป็นไหม มีโอกาสได้คืนแค่ไหน การให้ที่ไม่
เดือ ด ร้อน มันจะเกิด ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เพราะฉะนั้นคิด ให้ดีซะก่อน
3 ความต้อ งการ ในวัยเด็ ก
คนที่มีปัญหา ยุ่ง ย า ก ในเรื่องเิน บางคนมีสาเหตุ มาจากประสบการณ์
วัยเด็ กที่ไม่สมหวัง กับอะไรเท่าไหร่ ส่งผล ต่อจิตใจให้อย ากหลุดพ้น
จากสภาพความ ย า ก จน เหตุการณ์ในอดีตเหล่านั้น สามารถสร้างแร งกระตุ้ น
ให้เกิดความอย าก ได้ อ ย่ า ง ไม่มีขอบเขต ทำให้ใช้จ่ายเกินตัว
เพื่อชดเชยส่วนที่ ขาดหายไปในวัยเด็ ก อันที่จริงแล้วพฤติกร ร ม ใช้จ่าย
เกินตัวดังกล่าว มันคือสาเหตุ ของความเป็นห นี้ อันเป็น ทุ ก ข์ ฉะนั้นจึงต้อง
ปรับเปลี่ยน ทัศนคติใหม่ เพื่อให้มีความพอใจกับ ชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้
เพื่อให้เกิด ความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า ให้ความสำคัญกับ การยกระดับจิตใจ
ตัวเองมากกว่าวัตถุ ฉะนั้น จึงไม่ต้องใช้จ่ายเงิน เพื่อแสวงหา
เครื่องประดั บ ให้ตนเองมี ค่าอะไรหรอก
4 ใช้จ่ายไป แล้วไม่จดบันทึก
ไม่วางแผนอะไรเลย ใช้ไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เราควรทำบัญชี ร ายรับร ายจ่าย
เพื่อเลี่ ยง การใช้บัต รเค รดิต เพื่อจะได้ไม่ต้อง เสีย ด อ ก มาก นับว่าเป็นเรื่อง
ที่มีประโยชน์ และมีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นสิ่งที่ช่วย เปลี่ยนพฤติกร ร ม
การใช้จ่าย ของบุคคล ให้สมดุล ช่วยให้คุณทราบ พฤติ ก ร รม การใช้จ่าย
ของตัวเอง ช่วยหาจุดด้ อ ยของการใช้เงิน อีกทั้งยังมี ประโยชน์ อ ย่ า ง
แก่คนที่มีปัญหา ทางการเงิน ลอง ทำบันทึก รายจ่าย ทุกรายการในแต่ละวัน
จัดทำเป็นราย สัปดาห์ รายเดือน รายปี เพื่อกำหนดค่าใช้จ่ายเพื่อ ไม่ให้เกินงบ
ประมาณของตัวเองที่ตั้งไว้ วิธีนี้เหมาะสำหรับ ผู้ที่ขาดวินัย เป็น อ ย่ า ง มาก
5 ใช้บัต รเครดิ ตไม่เป็น
บางครั้งความต้องการ ของคนเราก็เป็นสิ่งที่ รอไม่ได้ เช่น ต้องการซื้อ
เครื่องเสียง หรือทีวีที่กำลังลดราคา หรือมีโปรโมชั่นผ่อน 0% 10 เดือน
ทั้งที่ความเป็นจริง ของบาง อ ย่ า ง อาจจะยังไม่มี ความจำเป็นต้อง ใช้งานเร่งด่วน
แต่บางคนก็จำเป็นจริง ๆ เช่น ทีวีเสีย หรือต้องเปลี่ยน ย า ง รถยนต์เนื่องจาก
เสื่อมสภาพแล้ว และต้องขับรถ ทางไกล เป็นต้น
6 ไม่ออมเงิน สักที
เราต้องออมเงินได้แล้ว จัดสรรเงิน เพื่อการใช้จ่าย ช่วยให้มีสภาพคล่อง
มีเงินใช้ เพียงพอในอนาคต ส่วนหนึ่งเนี่ย เป็นเงินออมซึ่งเป็นเงินเก็บไว้ใช้
ย ามเกษียณ อีกส่วน เป็นเงินเผื่อเวลา ฉุ ก เ ฉิ น สำรองเงินไว้ อ ย่ า งน้อย 3- 6 เดือน
สุดท้ายเป็นเงิน ออมเพื่อการลงทุ น เพราะมันจะสร้าง ผลตอบแทน
ได้ดีกว่าเงินฝ ากธน าคารไง การจัดความสมดุลของเงิน อ ย่ า ง เหมาะสม
ช่วยให้แผนการใช้จ่าย เป็นไป อ ย่ า ง ราบรื่น การเปลี่ยนตัวเอ งเป็นคนใหม่
ไม่ใช่เรื่องย ากอีกต่อไป เพียงปรับนิสัยใช้เงิน ที่เกินตัวลงบ้าง ห นี้สินมากมาย
ก็ไม่ตามมา คิดหน้าคิด หลังก่อนจับจ่าย เรียนรู้ประโยชน์ของบั ตรเค รดิต
อ ย่ า ละเลยการออม การลงทุ น การปลดห นี้ ทำได้ตามที่ได้กล่าวมานั้น
สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ คุณหมดปัญหา ไม่กังวล และช่วยให้คุณ
มีเงินเก็บเพื่อไว้ เลี้ยงตัวเอง ย ามแก่ด้วย
7 เป็นหนี้จากการค้ำประกันให้ผู้อื่น
หนี้ลักษณะนี้เกิด จากความไม่ตั้งใจ เพราะว่าอยากช่วยเหลือผู้อื่น
หรือด้วย เหตุผลอื่นใดก็ตามที จึงยอมเป็นผู้ค้ำประกัน เงินก ู้ให้บุคคลอื่น
แล้วถ้าผู้กู้เบี้ยวหนี้ไป คนที่จะรับเคราะห์ก็ คือผู้ค้ำประกันนั่นเอง
การไม่รับค้ำประกันหนี้ ให้ใครจึงเป็น วิธีป้องกันที่ดีที่สุด
เพราะเป็นหนี้ ที่ไม่ก่อประโยชน์ใด ๆ กับตนเองเลย
ขอขอบคุณที่มา sangkomonline