Home แนวคิดชีวิต 7 พฤติกรรม ที่พ่อแม่สปอยล์ลูกจนเกินไป

7 พฤติกรรม ที่พ่อแม่สปอยล์ลูกจนเกินไป

6 second read
0
1,445
7 พฤติกรรม ที่พ่อแม่สปอยล์ลูกจนเกินไป

7 พ ฤ ติ ก ร ร ม ที่พ่อแม่สปอยล์ลูกจนเกินไป

1 ให้ลูกเป็นทุกลมหายใจของพ่อแม่

เมื่อมีลูก พ่อแม่หลายคน ก็ได้อุทิศชีวิตทั้งชีวิต ให้กับลูก เป็นทุก อ ย่ า ง

ทำทุก อ ย่ า ง คิดทุก อ ย่ า ง ให้ลูกจนลูกไม่มีชีวิต เป็นของตัวเอง

พ่อแม่กลุ่มนี้ จะไม่อยู่ห่างจากลูก ยอมทิ้งทุกสิ่ง อ ย่ า ง เพื่อทำตาม

สิ่งที่ลูกต้องการ และทำให้ลูกเป็น ศูนย์กลางจักรวาล

2 ชดเชยความผิดของพ่อแม่ด้วยสิ่งของ

เช่น พ่อแม่ที่ต้องทำงาน มักจะรู้สึกผิดที่ ไม่ได้ใช้เวลาอยู่

กับลูกได้มากพอ จึงซื้อของเล่นให้ลูกเยอะ ๆ เพื่อชดเชย

ความผิดนี้ การทำแบบนี้ สอนให้ เ ด็ ก รู้ว่า เมื่อคนอื่นทำอะไรผิด

เขาจะได้รับสิ่งของ เป็นการตอบแทน สำหรับพ่อแม่ที่ต้อง

ทำงานนอกบ้าน ไม่ต้องกังวลใจไปว่า การมีเวลาอยู่กับลูก

เพียงเล็กน้อย จะทำให้ลูกมีปัญหา เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่

ใช้เวลาคุณภาพอยู่กับลูก โดยการหากิจ ก ร ร ม ทำร่วมกัน

และช่วงเวลาที่อยู่กับลูก ให้คุณพ่อคุณแม่ โฟกัสไปที่ลูกเพียง

อ ย่ า ง เดียว ไม่หยิบมือถือ ไม่คิดเรื่องงาน หรือเรื่องอื่น ๆ

แม้จะเป็นการใช้เวลา ร่วมกันเพียงน้อยนิด แต่ก็ช่วยเติมเต็ม

ให้ลูกได้มากกว่า การอยู่กับลูกทั้งวัน แต่พ่อแม่ไม่สนใจลูกอีกค่ะ

3 ไม่เคยปล่อยให้ลูกรอ

เมื่อลูก อ ย า ก ได้อะไร ชี้อะไร สิ่งของเหล่านั้น จะมาอยู่ตรงหน้า

ลูกทันที พฤติ ก ร ร ม ที่พ่อแม่ทำนี้จะ ทำให้ลูกไม่รู้จักการรอคอย

การอดทน การอดออม เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ มาเป็นของตน

ลูกจะไม่เห็นสิ่งอื่น ๆ มีค่า เพราะไม่เคย ต้องอดทนรอ

หรือคอยเลย บางครั้งการปล่อย ให้ลูกได้หิว ร้อน เหนื่อยบ้าง

จะทำให้ลูกรู้ว่า อาหารที่อยู่ตรงหน้าอร่อย เพียงใดก็เป็นได้

เข้าใจดีว่า เ ด็ ก ก็คือ เ ด็ ก ในบางครั้งลูก อาจจะงอแง อ ย า ก มี

อ ย า ก ได้ ตามวัยของเขา และพ่อแม่ทุกคน ก็ไม่ อ ย า ก เห็นลูกเสียใจ

แต่เราจะตามใจ ลูกได้แค่ไหน โดยที่ไม่เป็น การสปอยล์

ลูกจนเสียนิสัย ไปดูเทคนิค กันค่ะ

4 รับฟังความต้องการของลูกแต่แก้ปัญหาตามแนวทางของพ่อแม่

ให้ลองรับฟังลูกว่า ลูกต้องการอะไร รู้สึกเสียใจเพราะอะไร ยิ่งเราฟังลูกมาก

เท่าไร ลูกก็จะยิ่งไว้ เนื้อเชื่อใจเราเท่านั้น และเมื่อรับฟังแล้ว

สิ่งสำคัญหลังจาก นั้นคือแนวทางการช่วย แก้ปัญหาให้ลูก

พ่อแม่ควรยึดหลัก และกฎเกณฑ์ใน บ้านเป็นหลัก ไม่ควรแหวก

กฎเกณฑ์ เพื่อตามใจลูก เช่น เมื่อลูก อ ย า ก ได้ โทรศัพท์มือถือเพราะ

เพื่อนมีกันหมดแล้ว ให้คุณพ่อคุณแม่รับ ฟังว่าลูกรู้สึก อ ย่ า ง ไร

ต้องการมากแค่ไหน หลังจากนั้นให้ย้ำ ถึงกฎเกณฑ์ ว่าเราได้ตกลง

กันแล้วว่าลูกจะมี โทรศัพท์มือถือได้เมื่อลูก อยู่ในวัยที่เหมาะสมเท่านั้น เป็นต้น

5 อ ย่ า กลัวที่จะให้ลูกผิดพลาด

ผิดเป็นครู ถ้าลูกไม่รู้จักผิดพลาด ผิดหวังเลย จะมีแรงจูงใจอะไร

ให้ พ ย า ย า ม ทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จได้ และลูกจะรู้จักระมัดระวัง

ไม่ให้เกิดความผิดพลาด หรือไม่ถ้าไม่เคยทำผิดเลย ตัว อ ย่ า ง เช่น

เวลาเล่นเกมกับลูก ไม่จำเป็นต้อง ยอมแพ้และให้ลูก ชนะทุกครั้ง

การให้ลูกรู้จักแพ้บ้าง เพื่อให้ลูกได้ พ ย า ย า ม ทำให้ตัวเองชนะ

ก็เหมือนกับการ ที่พ่อแม่ต่อขั้นบันได ให้ลูกได้ปีน ผ่ า น อุปสรรค

ต่าง ๆ จนทำสิ่งเหล่านั้น ได้สำเร็จนั่นเอง และเมื่อลูกทำสำเร็จ

ได้ด้วยตัวเอง ลูกจะมีความภาคภูมิใจในตัวเอง Self-Esteem

ซึ่งความภาคภูมิใจนี้ จะเป็นผลดีกับชีวิต ของลูกในอนาคต

6 อ ย่ า สรรเสริญเยินยอลูกจนมากเกินไป

การชื่นชมลูกเพื่อ เป็นกำลังใจให้ลูกเป็นสิ่งสำคัญ แต่การชม

จนมากเกิน ไปจนถึงขั้นสรรเสริญเยินยอ ก็อาจจะเป็นการ

ทำ ร้ า ย ลูกได้ เพราะเป็นการ ส่งเสริมพฤติ ก ร ร ม ที่หลงตัวเอง

จนเกินพอดี หรือบางครั้ง อาจจะเป็นการ กดดันลูกได้

เพราะลูกจะรู้สึกว่า พ่อแม่คาดหวังให้ ลูกเป็นแบบนั้น การชมลูก

ที่ถูกต้อง ควรเน้นที่การชมถึงความพย าย ามของลูก ว่าการที่ลูก

ทำสิ่งนั้น ๆ สำเร็จได้ เป็นเพราะลูกพย าย าม เช่น เมื่อลูกสอบ

ได้คะแนนดี แทนที่จะชมว่าลูกหัวดี เรียนเก่ง ให้ลองปรับ

คำพูดเป็น เป็นเพราะลูก พ ย า ย า ม ตั้งใจเรียน ตั้งใจทบทวน

อ่านหนังสือ เลยทำให้ลูกได้คะแนนดี เป็นต้น

7 รั ก ษ า กฎเกณฑ์ภายในบ้าน

อ ย่ า ปล่อยให้ลูก แหวกกฎเกณฑ์ ภายในบ้านซ้ำ ๆ

เพราะจะทำให้ลูกลด ความเคารพใน สิทธิของคนอื่น ๆ

การตั้งกฎเกณฑ์ ภายในบ้านของทุกบ้าน เป็นเพราะพ่อแม่

ต้องการจำลอง สถานการณ์ให้ลูก ได้รู้จักกฎของการอยู่

ร่วมกันกับคนอื่น ๆ ดังนั้น อ ย่ า ปล่อยให้ลูก ทำตามใจตนเอง

เอาตนเองเป็น ศูนย์กลาง ไม่ทำตาม กฎเกณฑ์ต่าง ๆ

เมื่อต้องอยู่ร่วมกับ คนในครอบครัว เพราะหากลูกทำจนชิน

เมื่อลูกต้องออกไป อยู่ร่วมกับสังคม ลูกจะไม่ได้รับการยอมรับ

จากคนในสังคมนั่นเอง และเมื่อลูกมีอาการ ร้องไห้งอแง โวยวาย

ให้ตั้งสติก่อน ปรับพฤติ ก ร ร ม ลูก อ ย่ า ใช้อารมณ์ และเน้นใช้

ความสม่ำเสมอ นั่นคือ ไม่ให้ความสนใจกับพฤติ ก ร ร ม ที่ลูกแสดงออก

หากอยู่ในที่สาธารณะ ให้พาไปในที่เงียบสงบ ใช้การอธิบายที่นิ่ง

และมั่นคง ไม่แสดงอารมณ์ เมื่อพ่อแม่แสดงออก ถึงวุฒิภาวะที่มั่นคง

ลูกจะค่อย ๆ อาการงอแง และโวยวายจะค่อย ๆ ลดลงไป

แต่ความรู้สึกถึง ความรักจากพ่อแม่ จะยังคงอยู่

ขอขอบคุณที่มา meokayna

Check Also

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า 1 งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ แม้ไม่ใช่งาน ในค…