เรื่องจริงสอนใจ คนสมัยนี้บางคนชอบทำบุญแต่กลับไร้น้ำใจ
คนเราส่วนใหญ่ชอบที่จะ ทำบุญ โดยมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป บางคนทำบุญ เพราะต้องการช่วยเหลือผู้อื่น ให้พ้นจากความลำบา ก บางคนทำบุญเพื่อหวังจะให้ตัวเอง มีชีวิตที่ดีมากขึ้น
และคุณคิดว่า จุดประสงค์ของการทำบุญนั้น จริง ๆ แล้วคืออะไร และ นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง ข้อคิด เ พจ ข้อธรรม คำสอน พระไพศาล วิสาโล มาให้ล อ ง อ่ าน และคิดตามกันดู ต้องเข้าใจคำว่า บุญ ให้ถูกต้องก่อน
หากเราเข้าใจไม่ถูกต้อง แล้วมัวแต่สร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างหอระฆัง เพื่อหวังจะเกิดเป็นเทวดาในชาติหน้า และเป็นเศรษฐีในชาตินี้ ถ้าคิด อ ย่ า ง นี้อาจทำให้เกิดเป็นพฤติ ก ร ร ม ที่เรียกว่า ทำบุญหวังผล ซึ่งปัจจุบันนี้
มีคนประเภทนี้เป็นจำนวนมาก คือ มุ่งทำบุญเฉพาะกับวัด แต่ไม่มีน้ำใจกับคน ไม่มีน้ำใจกับสัตว์ จิตไม่มีเมตตา อ ย่ า ง แท้จริง จึงเกิดเหตุการ ชอบทำบุญ แต่ไร้น้ำใจ เกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
เพราะ ถ้าจิตที่มีเมตตา อ ย่ า ง แท้จริงแล้ว ต้องพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้คน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นพระ หรือ เป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแท้จริงแล้ว การทำบุญไม่ใช่การทำเพื่อหวังผล เพื่อขอให้ อ ย า ก ได้ อ ย า ก มีมากขึ้น
แต่เพื่อให้รู้จักสละออกไป สิ่งไหนที่มีมากแล้วก็รู้จักแบ่งปันผู้อื่น ฝึกความเป็นผู้ให้ แบบนี้จึงจะเรียกว่า บุญ คุณนายแก้ว เธอเป็นเจ้าของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอเป็นคนที่ชอบทำบุญมาก มักจะเป็นเจ้าภาพ
ทอดผ้าป่าทอดกฐินอยู่บ่อย ๆ เวลาใครบอกบุญสร้างวัดสร้างโบสถ์ เธอไม่เคยปฏิเสธเลย เธอมีความภาคภูมิใจมาก ที่ได้ถวายเงินนับแสนสร้าง หอระฆังถวายวัด ข้างโรงเรียน อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ทราบว่า มีนักเรียนคนหนึ่ง
ในโรงเรียนของเธอ ไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียนค้างชำระมา สองเทอมแล้ว เธอจึงตัดสินใจไ ล่ นักเรียนคนนั้น ออกจากโรงเรียนทันที อ ย่ า ง ไม่ลังเล สายใจ พาป้าวัย 70 และเพื่อนซึ่งมีขา พิ ก า ร ไปถวายภัตตาหารเช้า
ที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเจ้าอาวาสเป็นที่ศรัทธา นับถือของประชาชนไปทั่ว ในเช้าวันนั้น มีคนมาทำบุญกัน อ ย่ า ง เนืองแน่น จนลานจอดรถเต็มหมด เมื่อได้เวลาพระฉัน ญาติโยมก็พากันกลับ สายใจ พาหญิงชรา และ เพื่อนผู้ พิ ก า ร
เดินกะย่องกะแย่ ง ตากแดดกล้าไปยังถนนใหญ่ เพื่อขึ้นรถประจำทางกลับบ้าน ระหว่างนั้นมีรถเก๋งหลายสิบคันแล่น ผ่ า น ไป แต่ตลอดเส้นทางเกือบ 3 กิโลเมตร ไม่มีผู้ใจบุญคนใด รับขึ้นรถเพื่อไปส่งถนนใหญ่เลย
เหตุการณ์ทำนองนี้ มิใช่เป็นเรื่องแปลกประหลาดในสังคมปัจจุบัน อบทำบุญแต่ไร้น้ำใจ เป็น พฤติกร ร มที่พบเห็นได้ทั่วไป ทำให้เกิด คำถามขึ้นมาว่า เรานับถือศาสนากัน อ ย่ า ง ไร จึงมีพฤติกร ร มแบบนี้กันมาก
เหตุใด การนับถือศาสนา จึงไม่ช่วยให้คนมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ที่ ทุ ก ข์ ย า ก การทำบุญ ไม่ช่วยให้เรามีเมตตา รู้จักแบ่งปัน หรือ กรุณาต่อผู้อื่นเลย หรือหากสังเกตดีๆจะพบว่า การทำบุญของเรานั้น
มักจะกระทำต่อสิ่งที่อยู่สูงกว่าตน เช่น พระภิกษุสงฆ์ วัดวาอาราม พระพุทธเจ้า เป็นต้น แต่กับสิ่งที่ถือว่าอยู่ต่ำกว่าตน เช่น คน ย า กจ น หรือ สั ต ว์ น้อยใหญ่ เรากลับละเลยกันมาก แม้แต่เวลาไปทำบุญที่วัด เราก็มักละเลยสามเณร
แม่ชี และ พระบวชใหม่ แต่กุลีกุจอเต็มที่กับพระที่มีชื่อเสียง อะไรทำให้เราชอบทำบุญ กับสิ่งที่อยู่สูงกว่าตน ใช่ หรือไม่ว่า เป็นเพราะเราเชื่อว่า สิ่งสูงส่งเหล่านั้น สามารถบันดาลความสุข หรือให้สิ่งดี ๆ ที่พึงปรารถนากับเราได้
เช่น ถ้าทำอาหารถวายพระ บริจาคเงินสร้างวัด หรือพระพุทธรูป ก็จะได้รับความมั่งมีศรีสุข มีอายุ วรรณะ สุข พละหรือ ช่วยให้มีความสุขสบายมากขึ้นในชาติหน้า ดังนั้น ยิ่งทำบุญด้วยท่าทีแบบนี้ ก็ยิ่ง เห็นแ ก่ ตั ว มากขึ้นเพราะ ไม่ได้ทำด้วยจิตใจ
ที่เป็นบุญ แต่ทำบุญ เพราะหวังผล หวังแต่จะได้คืนมามากกว่า ผล คือจิตใจยิ่งคับแค บ ความเมตตา กรุณาต่อผู้ ทุ ก ข์ ย า ก มีแต่จะน้อยลง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การทำบุญแบบนี้ กลับจะทำให้ได้บุญน้อยลงยิ่งถ้าทำบุญ 100 บาท
เพราะหวังจะได้เงินล้าน บุญที่เกิดขึ้นย่อมน้อยลงไปอีก เพราะใช่หรือไม่ว่า นี่เป็นการค้ า กำ ไ ร เ กิ น ค ว ร ดังนั้น เมื่อใดที่เราเห็นคน ทุ ก ข์ ย า ก ไม่ว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหน อย่ าได้เบือนหน้าหนีขอให้เราเปิดใจรับรู้ความ ทุ ก ข์
ของเขา แล้วถามตัวเองว่า เราจะช่วยเขาได้หรือไม่ และ อ ย่ า ง ไร เพราะนี้ คือโอกาสดีที่เราจะได้ทำบุญ ลดละอัตตาตัวตน จิตที่เป็นกุศลจึงจะได้บุญ อ ย่ า ง แท้จริง สร้างบุญใช้สติ ไม่ต้องใช้สตางค์ พวกเราหาแต่สตางค์ ไม่หาสติกันเลย
บุคคลที่มีจิตเมตตาต่อบุคคลอื่น อยู่ที่ไหนก็มักมีผู้อุปภัมถ์อยู่เสมอ เรียนรู้ที่จะให้ มากกว่าเรียนรู้ที่จะรับ อ ย่ า ถามตัวเองว่าเราจะได้รับ อะไรจากการเมตตาผู้อื่น แต่จงถามตัวเองว่า เราจะให้อะไรกับผู้อื่น เรียนรู้ที่จะให้ แล้วเราจะมีแต่ความสุข
ขอขอบคุณที่มา พระไพศาล วิสาโล, chayend