7 เหตุผลหลักๆ ที่จะเป็นเส้นทางนำไปสู่ความรวย
ข้อที่ 1 คนรวยชอบอ่านหนังสือ
สิ่งที่จะดึงดูดเวลา ให้คุณไม่มีเวลาไปอ่านหนังสือก็คือ การรับชมภาพยนตร์
ทีวีซีรี่ย์ ที่หากเผลอ ดูไปแล้วบอกได้คำเดียวว่า ย าวววว ซึ่งนั่นมันจะดูดเวลา
ในชีวิตคุณให้หายไป จนทำให้ไม่มีเวลาไปทำในสิ่งอื่น ๆ ที่สำคัญกว่า
อ ย่ า งเช่น การหาความรู้เพิ่มเติม ในสายอาชีพของคุณ หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ
ที่จะนำพาชีวิตของคุณไปสู่เส้นทาง ที่ดีขึ้นคำถามสำคัญก็คือ มีหนังสือกี่เล่มที่คุณอ่านไปแล้วในปีนี้
ข้อที่ 2 รายได้ของคนรวยมาจากผลลัพธ์ที่สร้างขึ้น
ในระบบการศึกษา เราถูกสั่งสอน มาให้เรียนจบสูง ๆ แล้วหางานดี ๆ ทำ เพื่อ
ที่จะได้เงินเดือนสูง ๆ แต่หากใครที่เข้าสู่การทำงาน ประจำมาแล้วจะพบว่า
ในหลาย ๆ ครั้ง แม้ว่าเราจะทุ่มเท ขยัน เหน็ดเหนื่อย ห ลั่ ง เ ลื อ ด มากแค่ไหนก็ตาม
คุณก็ยังคงได้เงินเดือนเท่าเดิม อยู่ดีแต่ในขณะที่คนรวยนั้น ได้ค่าตอบแทนตามผลลัพธ์
ที่พวกเขาสร้าง ผลกระทบขึ้นต่อผู้อื่น ยิ่งส่งผลกระทบในด้านบวก แก่ผู้คนได้มากเท่าไหร่
พวกเขาก็จะได้รายรับมากเท่านั้น ซึ่งในฐานะที่ คุณเป็นพนักงานออฟฟิศ
ก็สามารถทำได้ ไม่จำกัด ที่การเป็นผู้ประกอบการเพียง อ ย่ า งเ ดียว
เช่น ในตำแหน่งนักขาย ที่มีทั้งเงินเดือน และค่าคอมมิชชั่น ซึ่งนักขายโดยปกติแล้ว
จะได้เงินเดือนน้อยมาก เพื่อเป็นกลไกผลักดันให้นักขายนั้น ต้องขายของให้ได้เยอะที่สุด
และค่าคอมมิชชั่น หรือส่วนแบ่งที่ได้จาก การขายนั้นจะมีมูลค่าที่สูงกว่าปกติ
เป็นเป็นแรงจูงใจให้นักขาย มุมานะในการทำยอดขายให้ได้สูงๆ ในส่วนของผู้ประกอบการนั้น
หลายคนหลงผิด คิดว่า สินค้าหรือบริการ ที่ตนเองสร้างขึ้นมานั้น จะนำพาให้รวยขึ้นมาได้
แต่เมื่อป้อน ผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด กลับพบว่า ไม่มีใครซื้อเลย หรือซื้อน้อยมากแล้ว
ก็จะมานั่งบ่น มาของเราดีขนาดนี้ ทำไม่คนไม่ซื้อเป็นเพราะ ผู้คนแต่ละคนโดยธรรมชาตินั้น
พวกเขาสนใจแต่ตัวเองเท่านั้น เขาไม่สนหรอกว่า คุณจะผลิตสินค้าได้ดีแค่ไหน
พวกเขาแค่สนใจว่า สินค้าหรือบริการนั้น สามารถช่วยให้คุณภาพชีวิต ของพวกเขาดีขึ้น
ได้ยังไงหรือช่วยแก้ปัญหา ของพวกเขาได้ยังไงต่างหาก ดังนั้น ยิ่งคุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหา
ให้ผู้คนได้มากเท่าไหร่ รายได้คุณก็จะมากขึ้น ตามไปด้วย
ข้อที่ 3 เมื่อล้มเหลว คนรวยจะไม่กล่าวโทษคนอื่น พวกเขาจะรับความล้มเหลวนั้นเอาไว้เอง
คุณคงเคยได้ยินเรื่อง ทำนองที่ว่า เมื่อเกิดเรื่องอะไร แ ย่ ๆ คนเรานั้น สามารถโทษ
ทุกสิ่งทุก อ ย่ า ง บนโลกใบนี้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็น โทษเพื่อน โทษพ่อแม่พี่น้องโทษ
เพื่อนร่วมงานโทษหัวหน้า โทษหมาแมว โทษฝนฟ้าอากาศ แม้แต่โทษในเรื่องนอกโลก
อ ย่ า ง ด ว ง ดาว โชค ชะ ต า ก็ยังโทษได้ แต่สิ่งเดียวที่จะไม่โทษก็คือ ตัวเอง นั่นทำให้
เมื่อเกิดเรื่อง ร้ า ย ๆ ขึ้นมา หากเราไม่เห็นว่า ตัวเองผิดเราก็จะไม่ทำ การพัฒนาตนเองให้มันดี
เพราะคิดว่าตนเองดีอยู่แล้ว แต่คนอื่นต่างหากที่ไม่ดี ดังนั้น สิ่งที่คนรวย ทำก็คือพวกเขานั่งคิด
วิเคราะห์ แยกแยะว่า เพราะอะไรทำไมจึงเกิดเรื่องผิดพลาด ล้ ม เ ห ล ว ขึ้นมาได้
แล้วจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้ อ ย่ า ง ไร ต้องทำอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ร้ า ย ๆ ซ้ำขึ้นอีก
ข้อที่ 4 คนรวยโฟกัสที่การลงทุนไม่ใช่การออมเงิน
คุณคงเคย ได้ยินเรื่องราวที่ว่า หากไม่กินกาแฟสตาร์บัค เลยตลอดชีวิต
คุณอาจจะมีเงินเก็บเป็นล้าน ซึ่งคุณอาจจะแก่เกินไป จนไม่มีโอกาสได้ใช้เงินก้อนนี้
หรือเงินก้อนนี้ในอนาคตนั้นโดน เงินเฟ้อเล่นงานซะจน มูลค่าลดฮวบจริงอยู่ว่า
การออมเงินเป็นเรื่องที่ดี แต่หากตอนนี้คุณยังไม่รวย นั่นแสดงว่าคุณไม่ได้มีปัญหา
ในการออมเงิน แต่คุณกำลังมีปัญหา ในการหาเงินต่างหาก เพราะถ้าคุณยังมีรายได้น้อย ๆ
อยู ต่อให้คุณออมเงินเดือนละ 99% มันก็ไม่ทำให้คุณรวยขึ้นมาได้ ดังนั้น หากยังไม่รวย
จงโฟกัสไป ที่การสร้างรายได้ก่อน แล้วจากนั้นให้ศึกษาเ รื่องการออมเงิน
และการใช้เงิน แล้วหลังจากนั้น จงนำเงินไปลงทุนเพื่อ ให้มันงอกเงยขึ้น
ข้อที่ 5 คนรวยเป็นคนที่เรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา
คุณคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ใครก็ตามที่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว พวกเขาจะไม่สามารถ
พัฒนาหรือเติบโต ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะพวกเขาคิดว่า ตนเองนั้น
รู้ไปหมดทุกสิ่งทุก อ ย่ าง แล้วบนโลกใบนี้ ในโลกนี้ฉันเก่งที่สุด เจ๋งที่สุด
ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ อะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว แต่ในขณะที่คนรวยนั้น ทำตัวเองให้เป็นนำครึ่งแก้ว
เพื่อรองรับความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ พวกเขาเก่งในเรื่อง ของการถามและการฟัง
เพราะเมื่อเริ่มต้นด้วยคำถามที่ดี คุณจะได้คำตอบที่ดีเสมอ และการรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นนั้น
เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการที่เก่ง แต่พูดแล้วไม่ฟังใครเลยในโลก นี้เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า
คนรุ่นใหม่ ๆ ย่อมเก่งกว่าคนรุ่นเก่า ๆ อยู่เสมอ อ ย่ าไ ด้ดูแคลนพวกเขา แต่จงเรียนรู้
จากพวกเขา แล้วนำเอามา ปรับใช้กับชีวิตเรา ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
ข้อที่ 6 คนรวยคิดว่าการเกิดมาจนนั้นไม่ผิด แต่ผิดแน่ ๆ หากคุณ ต า ย ทั้ง ๆ ที่ยังจนอยู่
คนที่ยังไม่รวย หลายคนมีทัศนคติ ที่ไม่ค่อยดีกับเงินสักเท่าไหร่นัก เช่น คนรวย
เป็นคนเห็นแก่ตัว คนรวยเป็นคน เ ล ว คนรวยเป็นคนแล้งน้ำใจ เงินทำให้คนดี ๆ
กลายเป็นคน ชั่ ว ร้ า ยเงินเป็นสิ่งที่หากใครมีแล้วจะ กลายเป็นคนไม่ดี ซึ่งการคิดแบบนี้
ไม่ช่วยให้คุณรวยขึ้นมาได้เลย เพราะเปรียบง่าย ๆ ว่า หากคุณบ่นไม่ชอบหมาแมว
แน่นอนว่าคุณก็จะไม่เลี้ยงพวกมัน หรือพวกมันก็จะไม่เข้าใกล้คุณ เช่นกัน หากคุณ เ ก ลี ย ด เงิน
หรือมีทัศคติที่ไม่ดีกับเงิน พวกมันก็จะไม่เข้าใกล้คุณเช่นกัน จริง ๆ แล้ว เงินนั้น
เปรียบเสมือนเครื่องมือ ชิ้นหนึ่งที่จะช่วยให้คน ๆ นั้น สามารถทำอะไรต่อมิอะไร
ได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเงินมันไปอยู่ ในมือของคนไม่ดี คนนั้น ๆก็จะทำสิ่ง ชั่ ว ร้ า ย
ที่มีผลกระทบต่อผู้คน อ ย่ า ง มากมาย แต่ในขณะที่หากเงินนั้น ไปอยู่มือของคนดี
พวกเขาก็จะสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับโลกนี้ได้ อ ย่ า ง มากมายมหาศาล เช่นกัน
ดังนั้น คุณจะสังเกตเห็นได้ว่า เงินเปรียบเสมือนเป็นเครื่อง ข ย า ย เสียงต่างหาก
ส่วนจะดีจะ ชั่ ว นั้น มันอยู่ที่ตัวบุคคล หากคุณสังเกต จากมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ
ของโลก อ ย่ า ง Bill Gates และ Warrent Buffet นั้นเป็นคนที่ใจบุญเป็น อ ย่ า ง มาก
พวกเขาร่วมใจกัน บ ริ จ า ค เงินของตัวเองกว่า 80%-90% ให้แก่องค์กรการกุศล
ที่สามารถช่วยเหลือ ผู้คนบนโลกใบนี้ได้นับล้าน ๆ ชีวิตเพราะหากคุณไม่รวย
คุณจะสามารถช่วยเหลือ คนอื่นได้เพียงหยิบมือ แต่ในขณะที่หากคุณเป็นคนรวยนั้น
คุณจะสามารถช่วยเหลือ ผู้คนได้อีกมากมา ยเลยทีเดียว
ข้อที่ 7 คนรวยเชื่อว่า ฉันเป็นคนลิขิตชีวิตของตนเอง
คุณอาจจะเคยเห็น คนรวยซื้อล็อตเตอรี่บ้าง เป็นบางครั้งบางคราว และบางที
ก็เห็นซื้อเป็นปึ๊ก ๆ นับสิบใบ ซึ่งพวกเขาซื้อเพื่อความสนุก และความบันเทิงเท่านั้น
เพราะหากไม่ถูกรางวัลก็ไม่ได้ มีผลกระทบกับคุณภาพชีวิต ณ ตอนนี้แต่นั่นมันต่างกัน
ลิบลับกับคนทั่วไปที่ซื้อล็อตเตอรี่ เพื่อที่จะหวังว่า ตรูต้องรวยแน่ ๆ หากถูกรางวัลที่ 1
ฉันจะซื้อบ้านซื้อรถ ไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเอาเข้าจริง การที่ใครสักคนหนึ่ง
จะถูกรางวัลที่ 1 นั้น มีโอกาสที่จะถูกน้อยมากๆ ซึ่งมีโอกาสเพียง 0.0001% เท่านั้น
ซึ่งหากคุณต้องการที่จะถูกรางวัลที่ 1 แบบ 100% นั่นก็คือ คุณจะต้องซื้อล็อตเตอรี่จำนวน 1 ล้านใบ
หรือคิดเป็นเงิน 80 ล้าน ซึ่งคุณมีโอกาสที่จะได้รางวัลที่ 1 มูลค่า 6 ล้านบาท
อ ย่ า ง แน่นอนแต่ในขณะ ที่คนรวยนั้น พวกเขาเชื่อว่า การที่พวกเขาจะมีบ้าน มีรถ
ไปท่องเที่ยวต่างประเทศ มีเงินเก็บเป็นล้านได้นั้น พวกเขาจะต้องสร้าง ให้มันเป็นจริงขึ้นมา
ให้ได้ด้วยลำแข้งของตนเองให้ถึงที่สุด และข่าวดีก็คือ มหาเศรษฐีบนโลกใบนี้กว่าร้อยละ 80
เป็นคนที่สร้างฐานะ ขึ้นมาได้ด้วยตนเอง โดยไม่ได้รวยมาจากมรดก ตกทอดด้วยซ้ำ
ดังนั้น จงเชื่อเถอะว่าคนธรรมดา ๆ อ ย่ า ง เรา ๆ ก็สามารถเป็นคนรวยได้เช่นกัน
ขอขอบคุณที่มา b l u e o c l o c k, wansukth