จงฝึกทำตัวเป็น “คนน้ำครึ่งแก้ว” (เขียนไว้ดีมาก)
คุณเป็นคนประเภทไหน
แก้วเปล่า น้ำครึ่งแก้ว น้ำเต็มแก้วคำเปรียบเปรยว่า แก้วเปล่า น้ำครึ่งแก้ว น้ำเต็มแก้ว มักได้ยินกันบ่อย ๆ
ทั้งในการทำงาน การเรียน ในบางครั้งนึกสงสัยว่าแท้ที่จริงแล้ว
มันดีหรือไม่สำหรับคนเหล่านี้แต่ อ ย่ า งไรก็ตามการที่จะเป็นคน แก้วเปล่า น้ำครึ่งแก้ว หรือน้ำเต็มแก้ว นั้น
อาจจะมีเหตุและผลในแต่ละบุคคล ซึ่งถ้าไม่ทำให้สังคมและตัวเองเดือดร้อนก็
เป็นสิ่งที่ไม่ควรต่อว่ากันแก้วเปล่า คือ แก้วที่ไม่เคยรับสิ่งใด ๆ ดีมั้ยสำหรับคนประเภทนี้บางคนอาจคิดว่า
น่าจะดีกว่าเพราะยังว่างอยู่ ลองคิดดูว่าแต่ในทางกลับกันถ้ามันว่างมากเกินไป
จนไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย จะเป็นคนที่ไม่สนใจใยดีต่อตัวเอง ต่อสังคมชนิดที่เรียกว่าชีวิตเฉื่อยชาไม่มีเป้า
หมายในชีวิตหรือเปล่า หากจะเติมน้ำลงไปควรจะเริ่มจากอะไรดีน้ำครึ่งแก้ว
จงเป็นคนที่มีน้ำครึ่งแก้ว เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอด ซึ่งหมายถึงแก้วน้ำที่พร้อมจะเติมเต็ม ทุก ๆ สิ่ง พร้อม
เติม เต็ม ทุก ๆ อ ย่ า ง การเป็นแก้วใบนี้จึงมีข้อดีมากมายทำให้
พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลาพร้อมที่จะรับกับสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ น้ำครึ่งแก้วจึงได้เปรียบเพราะ
เป็นแก้วที่ไม่มีวันเติมเต็มไม่ว่าใครจะใส่ความรู้ลงมามากสักเท่าไหร่
เราก็สามารถรับได้ตลอดเวลาน้ำเต็มแก้ว คือ แก้วน้ำที่ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต พอใจ และยึดติด
กับสิ่งเดิมหรือ สิ่งที่มีอยู่ ในขณะที่การทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว แปลว่าคุณ
จะไม่เปิดรับอะไรอีกต่อไปแล้วสิ่งที่คิดที่อ ย า กจะเป็นอาจจะไปไม่ถึงหรือไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจเพราะเมื่อ
น้ำเต็มแล้วบางครั้งเมื่อเจอปัญหาก็จะไม่สามารถหาทางออกได้แต่
ถ้าหากยอมรับคำแนะนำบาง อ ย่ า ง อาจจะทำให้ สิ่งที่คิดอยู่สำเร็จได้ในชีวิตคนเรานั้นการที่จะใช้ชีวิตใน
สังคม อ ย่ า ง มีความสุขนั้นเชื่อว่าแต่ละคนก็มีวิถีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน
ตามสถานะทางสังคม ครอบครัวและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนได้ตามวันเวลาสำหรับคน
ที่อยู่ในวัยทำงาน ที่ต้องการความเจริญก้าวหน้าในชีวิตการที่จะเป็นคน
ประเภทไหนคงต้องค่อยๆคิดทบทวนประมวลข้อมูลว่าข้อมูลใดที่เป็นข้อมูลที่ถูกต้องควรเติมเข้ามาในแก้ว
หรือถ้าข้อมูลที่ได้มาไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ปล่อยให้ไหล่ออกจากแก้ว
ไปดีกว่าปิดกั้นตัวเองหรือใช้ความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้งหากยอมรับข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากผู้รู้แล้ว
นำมาปรับใช้ในการทำงานก็จะเป็นผลดีต่อทุกฝ่ายสิ่งหนึ่งที่ อ ย า ก เห็น
ไม่ว่าคุณจะจัดอยู่ในประเภทใดเมื่อใดก็ตามที่เจอปัญหา สะดุดหกล้มจง อ ย่ า กลัวที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ว่า
เราจะทำการใด ๆ ก็ตาม เมื่อเกิดการผิดพลาด ก็สามารถที่จะเริ่มใหม่ได้
การเริ่มต้นใหม่ไม่ใช่ว่าจะผิดพลาดเหมือนครั้งแรก ๆ เสมอไปการก้าวเดินและลุกขึ้นใหม่อาจจะเป็นการ
ก้าวเดินที่นำไปสู่การประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของชีวิตคุณก็ได้
คุณจะเป็นคนประเภทไหน
แก้วเปล่า
น้ำครึ่งแก้ว
น้ำเต็มแก้ว
อยู่ที่คุณเลือกที่จะเป็น
ที่มา k r a j a i b o o n,staylifeth