Home แนวคิดชีวิต ความลับที่ไม่เคยรู้ เวลาไปฝากเงิน

ความลับที่ไม่เคยรู้ เวลาไปฝากเงิน

6 second read
0
795
4 เรื่อง ที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับธนาคาร

ความลับที่ไม่เคยรู้ เวลาไปฝากเงิน

1 ยิ่งฝากนานเงินยิ่งหาย

จากความเชื่อที่ว่า ฝากแบงค์เงินต้นไม่หาย แถมได้ ด อ ก เบี้ยสบาย เรื่องนี้มันถูกแค่ครึ่งเดียว

เพราะเงินต้นไม่หาย แต่มูลค่าเงินลดลงตลอดเวลา เนื่องจากเงินเฟ้อ แล้วเงินเฟ้อคืออะไร

เงินเฟ้อก็คือ ภาวะที่ราคาของสินค้าต่างๆ สูงขึ้นทำให้มีเงินเท่าเดิม แต่ซื้อสินค้าได้น้อยลง หรือสรุปง่ายๆ

คือมีเงินเท่าเดิม แต่มูลค่าของเงินลดลง เงินเฟ้อเฉลี่ยของไ ท ยอยู่ที่ประมาณ 3% แต่ ด อ ก เบี้ย

เงินฝากทั่วไปในปัจจุบัน มักจะต่ำกว่า 3% เมื่อหักลบกันแล้ว มูลค่าของเงินก็ยังคงน้อยลงอยู่ดี

2 เสียโอกาสในการให้เงินทำงานแทนเรา

ข้อดีของเงินฝากคือ สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสด มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และย า ม ฉุ ก เ ฉิ นได้ทันที

ไม่รวมเงินฝากที่มีเงื่อนไขพิเศษ แต่การฝากเงินมากเกินความจำเป็น ทำให้เราเสียโอกาสนำเงินไปลงทุน

สร้างผลตอบที่ดี ให้กับเราในอนาคตหลายคนกลัวคำว่าลงทุน เนื่องจากมีความไม่แน่นอน และอาจขาดทุนได้

แต่จากสถิติพบว่า การลงทุนในระยะเวลาที่ย า วนานขึ้น โอกาสขาดทุนก็จะน้อยลงตามไปด้วย ดังนั้น

ยิ่งเริ่มลงทุนเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีเวลาลงทุนนานขึ้น โอกาสขาดทุนน้อยลง และเงินสามารถทำงานสร้างรายได้ แทนเราได้นานขึ้นด้วย

3 ความฝันต่างๆ อาจจะไม่เป็นความจริง

ทุกคนมีความฝันของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเกษียณก่อนกำหนด เที่ยวรอบโลก มีบ้านหลังใหญ่ ส่งลูกเรียนเมืองนอก

ความฝันเหล่านี้จะเป็นจริงได้ จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก หลายคนคิดว่าพ ย า ย า มเก็บเงิน ให้ได้มากที่สุด

เพื่อที่จะเอาเงินไปทำฝัน ให้เป็นจริงในวันข้างหน้า แต่การทำเช่นนี้อาจทำให้ความฝันเป็นจริงได้ย า กมาก

หรือไม่มีวันเป็นจริงเลย จากเรื่องเงินเฟ้อในข้อแรก เราจะเห็นว่าฝากเงินในแบงค์

ยิ่งทำให้มูลค่าเงินลดลงทุกวัน เก็บเท่าไหร่ก็ไม่พอค่าใช้จ่ายอยู่ดีดังนั้น ควรแบ่งเงินไปลงทุนเพื่อ

สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับเรา และนำผลตอบแทนไปทำความฝัน ให้เป็นจริงในวันข้างหน้า

4 มีความเ สี่ ย งที่จะไม่ได้เงินคืน หากเเบงค์ล้ม

เราเชื่อว่าฝากเงินไว้กับธนาคาร ไม่ต้องกลัวเงินต้นหาย แต่ในความเป็นจริง ถ้าแบงค์เกิดเจ๊งขึ้นมาอ ย่ า งเช่นในปี 40

เราจะเอาเงินคืนจากใคร หลายคนบอกว่ามีพระราชกฤษฎีกาคุ้มครองเงินฝาก ยังไงก็ได้คืนทั้งหมด

มันใช่ถ้าเป็นเมื่อก่อนแต่ปัจจุบัน พระราชกฤษฎีกาคุ้มครองเงินฝาก ไม่ได้คุ้มครองเงินเต็มจำนวนอีกต่อไป

โดยวงเงินคุ้มครองจะค่อยๆ ลดลงจากข้อมูลข้างต้น มันแปลว่าเงินต้น เราไม่ได้ปลอดภัย 100% แบบที่เราคิดอีกต่อไป

จะเห็นว่าการฝากเงินมากเกินความจำเป็น อาจจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้น เราควรจัดสรรเงินให้เหมาะสม

ทั้งการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เงินสำรองในย า ม ฉุ ก เ ฉิ น และการลงทุนเพื่อให้เงินทำงาน สร้างความมั่งคั่งให้เราในอนาคต

ที่มา จาก aansanook

Check Also

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า 1 งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ แม้ไม่ใช่งาน ในค…