5 ประเภท ของคนที่มีสิทธิ์ที่จะตกงานได้
ประเภทที่ 1 คนที่ทำงานแบบเดิมๆ ซ้ำๆ
พนักงานที่ต้อง ทำงานแบบเดิมๆ ซ้ำๆ เช่น แพคของ ประกอบชิ้นส่วน
จัดเรียงสินค้าในคลัง งานที่อาศัยแค่การจับวาง ให้เข้าที่ไม่ได้ใช้การคิด
วิเคราห์ หรือการตัดสินใจใดๆ เรียกว่าทำงาน ด้านเดียวคล้ายๆ หุ่นยนต์
จึงไม่แปลกเลย หากจะถูกแทนที่ ด้วยหุ่นยนต์จริงๆ เพราะ หุ่นยน
ต์ไม่เรียกร้อง ขึ้นเงินเดือน ไม่ ขาด ลา มาสายไม่บ่น
ไม่หยุดงานประท้วง ไม่เรียกร้อง สวัสดิการเพิ่ม
ประเภทที่ 2 คนที่นอกเหนือจาก 8 ชั่ ว โมงไม่เรียนรู้
มีเพื่อนผมคนหนึ่ง ทำงานที่โกดังสินค้า คอยเช็คจำนวนสินค้า
ในคลังเป็นงานง่ายๆ ที่เหมือนจะถูกแทนที่ ด้วยหุ่นยนต์ในอนาคต
แต่เมื่อทำงานปี แรกเขาก็ค้นพบ ว่ามีของบาง อ ย่ า ง ที่ถูกจัดส่งเป็น
จำนวนมาก เขาเริ่มเกิดไอเดีย จึงไปค้นหา ข้อมูลต่อและพบว่า
ของบาง อ ย่ า ง ในโกดังนั้นเป็นที่ ต้องการของตลาดมาก
ด้วยความที่อยู่ ในวงการนี้อยู่แล้ว ทำให้เขามองหา แหล่งผลิต
ที่ต้นทุนถูกได้ และ เริ่มนำมาลงหน้าเว็ป เพื่อขายออนไลน์ ผ่ า น ไป 3 ปี
ธุรกิจ ข ย า ย ตัว อ ย่ า ง รวดเร็ว ปีที่ 7 เขาก็เปิด บริษัทของตัวเอง
ตลอดระยะเวลา แห่งงานเปลี่ยนแปลงสิ่ง ที่เขาไม่เคยหยุดทำ
ก็คือ ใช้เวลานอกเหนือจาก 8 ชั่ ว โมงใน การเรียนรู้ยุคสมัยนี้
เป็นยุคแห่งการเรียนรู้ ความรู้เติบโตขึ้นในอัตรา ที่ก้าวกระโดด
ทุกคนมีอินเตอร์เน็ต สามารถเข้าถึงความรู้ต่างๆได้ อ ย่ า ง รวดเร็ว
แค่ปลายนิ้วอยู่ที่ว่า คุณจะใช้โอกาสที่มีไขว่คว้า หรือ นั่งรอวันถูกแทนที่
ประเภทที่ 3 คนที่ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่เป็น
บริษัทต่าง ชาติแห่งหนึ่ง ให้เงินผู้สมัครงาน 75 บาท ให้พวกเขาไป
หาข้าวกินด้วยกัน ผู้สมัคร 6 คนไปถึงร้าน อ า ห า ร ด้วยกัน
แต่ข้าวจาน หนึ่งราคา อ ย่ า ง ต่ำ 15 บาท เงินที่พวกเขามี ไม่พอจะซื้อข้าว
คนละจานเลยด้วยซ้ำ ก็เลยกลับไปบริษัท พอถึงบริษัท ประธานบริษัท
รู้เข้าก็ส่ายหน้า ขอโทษด้วย พวกคุณไม่เหมาะ กับบริษัทเรา
รู้ไหม ร้าน อ า ห า ร ร้านนั้น มีโปรโมชั่นซื้อ 5 แถม 1 ไม่ได้ อ่ า น
ดูรายละเอียด ในเมนูเลยหรอ นี่แสดงให้เห็น ถึงความไม่ใส่ใจ
หรือ ถึงแม้ไม่มีโปร 5 แถม 1 ก็ยังขอจาน เปล่ามาหนึ่งใบ
แล้วสั่งข้าว 5 จานมา แบ่งกันกินได้ แต่ผู้สมัครทั้ง 6 คนไม่มีใคร
คิดว่ามาด้วยกัน จึงไม่เกิดคำว่า เป็นทีมเดียวกัน ทุกคนต่างคิดถึง
แต่ตัวเอง เมื่อเข้ามา อยู่ในองค์กรก็ไม่รู้จัก การทำงานเป็นทีม
รู้ไหม ทีมเวิร์คที่ดีนี่แหละ ที่ทำให้มนุษย์เหนือ กว่าหุ่นยนต์
ประเภทที่ 4 คนที่ไม่เข้าใจการลงทุนในตัวเอง
เรามักจะได้ ยินคำเตือนว่า อ ย่ า ฟุ่มเฟือย แต่ถ้าเราเก็บเงินได้ 1 แสนต่อปี
ภายใน 10 ปี เก็บได้ 1 ล้าน นี่คือเก่งหรอ ไม่ใช่ เพราะเมื่อคุณ
ใช้เวลา 10 ปีถึงจะเก็บเงินได้ 1 ล้าน คนอื่นอาจจะใช้ เวลาแค่ปีเดียว
ตอนที่คุณยัง เ ย า ว์ วัย คุณต้องรู้ว่าจะลงทุน กับตัวเองยังไงถ้าทุกเดือน
คุณเอาเงินส่วนหนึ่ง มาลงทุนกับตัวเอง บางคน ออกเดินทาเที่ยวรอบโลก
ไปเจอธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าสนใจในต่างประเทศ แต่ในบ้านเรายังไม่มี
ก็นำไอเดียกลับมาต่อยอด เป็นธุรกิจของตัวเอง บางคนไปเรียนคอส
การขาย เสริมหลังเลิกงาน อาจไม่ได้รวยในทันที แต่การได้ทำความรู้จัก
คนมากมาย ก็นำพาโอกาสดีๆเข้ามา ในชีวิตได้เหมือนกัน บางคน
ไปเข้าฟิตเนส ออกกำลังกาย จนค้นพบช่อง ทางธุรกิจ เปิดยิม ขาย อ า ห า ร
เสริมสำหรับคนรัก สุ ข ภ า พหลายปี ผ่ า น ไปคุณจะพบว่า เงินที่คุณใช้ไป
ทำให้คุณค่า ของตัวเองเพิ่มขึ้น คุณได้คืนกลับมา หลายเท่า
ประเภทที่ 5 คนมองอะไรสั้นๆ ตัดสินแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทันที
หลังเรียนจบ Li Ting และ Tan Si เข้าไปฝึกงาน ที่บริษัทบัญชี
แห่งหนึ่งด้วยกัน หลังหมดระยะฝึกงาน บริษัทเสนอให้ไปศึกษางาน
ที่สำนักงานใหญ่ ที่ต่างประเทศ 2 ปี แต่ได้เงินเดือนครึ่งเดียว
ไม่มีค่า คอมมิชชั่น Li Ting รู้สึกว่าเงินเดือน น้อยเกินไป
แถมไม่คุ้นเคย กับการใช้ชีวิตในต่างแดน ก็เลยไม่เอาส่วน Tan Si
กล้าตัดสินใจเลือกไปศึกษา งานที่สำนักงานใหญ่ ในต่างประเทศในมุมมอง
ของเธอไปศึกษางาน แถมยังได้เงินเดือน เป็นเรื่องที่คุ้มแสนคุ้ม
ผ่ า น ไป 2 ปี Tan Si กลับมาที่ บริษัทในฐานะหัวหน้า โครงการคนใหม่
รายได้ 1 ล้านต่อปีส่วน Li Ting ยังคงทำงาน ในตำแหน่งเดิม เงินเดือน
ในตอนนี้ไม่ถึง 1 ใน 3 ของ Tan Siไม่ใช่ว่า Tan Si ตัดสินใจถูก
หรือ Li Ting ตัดสินใจผิด เพราะ ทั้งคู่ต่างเลือก สิ่งที่คิดว่าดีที่สุด ให้ตนเอง
แต่เมื่อเวลาที่ ผ่ า น ไปจะเป็น เครื่องพิสูจน์ว่า การตัดสินใจของเรา
ในอดีต จะพาเราก้าวหน้าขึ้นได้หรือไม่ เมื่อก่อนปลาเล็ก กินปลาใหญ่
ตอนนี้ต้องเปลี่ยน เป็นปลาเร็วกินปลาช้า สิ่งใหม่ๆ ที่ปรากฏขึ้นมักมาพร้อม
กับโอกาสทางธุรกิจ แต่เมื่อโอกาส ผ่ า น ไป คนที่ช้าก็จะไม่มีทางได้สัมผัส
ในยุคนี้ พวกเราต้องมีสัญชาตญาณ ของการเอาตัวรอด เราเป็นคน ไม่ใช่หุ่นยนต์
ต้องรู้จักเรียนรู้ และ ปรับตัว ค้นหาและแก้ไข้ ข้อบกพร่องของตัวเอง
อ ย่ า ง ทันท่วงที เพื่อที่จะพัฒนา ต่อไปในทิศทาง ที่ดียิ่งขึ้นไม่ อ ย่ า ง นั้น
ในแต่ละปีที่ ผ่ า น ไป คุณจะพบว่า คุณถูกคนอื่นๆทิ้งไว้ข้างหลังแล้ว
จะเห็นว่าตัว อ ย่ า ง ที่หยิบยกมานั้น ไม่ได้เจาะจงถึงอาชีพใด เพราะทุกอาชีพ
ล้วนมีโอกาส ตกงานได้ทั้งนั้น แต่ยกตัว อ ย่ า ง ให้เห็นถึงทัศนะคติ
ที่จะเป็นสิ่งตัดสินว่า คุณจะถูกแทนที่ หรือได้ไปต่อ
ขอขอบคุณที่มา b i t c o r e t e c h, jingjai999