4 ประเภท ของคนที่จะไม่มีงานทำตกงาน
ประเภทที่ 1 คนที่ทำงานแบบเดิมๆซ้ำๆ
พนักงานที่ต้อง ทำงานแบบเดิมซ้ำๆ เช่น แพคของ ประกอบชิ้นส่วน
พนักงานต้อนรับ คนรับออเดอร์ เช็คคลังสินค้า เช็คสต๊อคของงาน
ที่อาศัยแค่การจับวาง ให้เข้าที่งานที่ ทำอะไรเดิมๆซ้ำๆ
ไม่ได้อาศัยการคิดวิเคราห์ หรือ การตัดสินใจใดๆ เรียกว่าทำงานด้านเดียว
คล้ายๆหุ่นยนต์ จึงไม่แปลกเลย หากจะถูกแทนที่ ด้วยหุ่นยนต์จริงๆ
เพราะ ในมุมมองของนายจ้าง หุ่นยนต์ ไม่ ขาด ลา มาสาย ไม่บ่น
ไม่หยุดงานประท้วง ไม่เรียกร้องขึ้นเงินเดือน ไม่เรียกร้องสวัสดิการเพิ่ม
ประเภทที่ 2 คนที่นอกเหนือจาก 8 ชั่ วโมงไม่เรียนรู้
มีเพื่อนผมคนหนึ่ง ทำงานที่โกดังสินค้า เป็นงานง่ายๆ แค่เช็คจำนวนสินค้าในคลัง
เป็นเหมือนงานที่จะ ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ในอนาคต แต่เมื่อทำงานปีแรก
เขาก็ค้นพบว่า มีสินค้าบางชนิดที่ถูกสต๊อค เอาไว้ในคลัง และ ถูกจัดส่งเป็น
จำนวนมากเขาไปคนหาข้อมูล ต่อและพบว่าสินค้าชนิดนี้ เป็นที่ต้องการของตลาดมาก
ด้วยความที่อยู่ใน วงการนี้อยู่แล้ว เขาเริ่มเกิดไอเดีย มองหาแหล่งผลิต ที่ต้นทุนถูกได้
และ เริ่มนำมาลงหน้าเว็ป เพื่อขายออนไลน์ ผ่ า น ไป 3 ปี ธุรกิจขย ายตัวอย่ าง
รวดเร็วปีที่ 5 เขาก็เปิดบริษัทของตัวเอง ตลอดระยะเวลาแห่งงานเ ปลี่ยนแปลง
สิ่งที่เขาไม่เคยหยุดทำก็คือ ใช้เวลานอกเหนือจาก 8 ชั่ ว โมงในการเรียนรู้ยุคสมัยนี้
เป็นยุคแห่งการเรียนรู้ ความรู้เติบโตขึ้นในอัตราที่ ก้าวกระโดด ทุกคนมีอินเตอร์เน็ต
สามารถเข้าถึง ความรู้ต่างๆได้อย่ างรวดเร็ว แค่ปลายนิ้ว อยู่ที่ว่าคุณ
จะใช้โอกาสที่มี ไขว่คว้า หรือ นั่งรอวันถูกแทนที่
ประเภทที่ 3 คนที่ร่วมงานกับคนอื่นไม่เป็น
ถ้ามีโจทย์ว่า ปล่อยมนุษย์ 1 คน ไว้ในป่า กับ ลิง 1 ตัวไว้ในป่า คุณคิดว่า
ใครจะเอาตัวรอดในป่า ได้นานกว่ากันแน่นอนต้องเป็น ลิงแต่ถ้าเปลี่ยนโจทย์เป็น
ปล่อยมนุษย์ 10 คน ไว้ในป่า กับ ลิง 10 ตัวไว้ในป่า คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเวลา ผ่ า น ไปหลายร้อยปี มนุษย์ 10 คน สามารถสร้าง สรรค์อารยธรรม
ให้เกิดขึ้นได้แน่นอน ทีนี้เห้นภาพหรือยัง ทีมเวิร์คที่ดีนี่แหละที่ทำให้มนุษย์
เหนือกว่าหุ่นยนต์ การร่วมมือกัน การทำงานเป็นทีม และ การรู้จักปรับตัวให้ทำงานร่วมกันได้
เป็นทักษะที่ทำให้มนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาไปได้ไกลกว่า สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆบนโลก
ประเภทที่ 4 คนที่ไม่เข้าใจการลงทุนในตัวเอง
ถ้าเราเก็บเงินได้ 1 แสนต่อปี ภายใน 10 ปี เก็บได้ 1 ล้าน นี่คือเก่งหรอ
ไม่ใช่ เพราะเมื่อ คุณใช้เวลา 10 ปีถึงจะเก็บเงินได้ 1 ล้าน คนอื่น
อาจจะใช้เวลาแค่ปีเดียว ยิ่งคุณอายุยังน้อย ยิ่งต้องรู้จักการลงทุน
เพราะ มันจะเป็น เครื่องทุ่นแรงให้คุนไม่ต้องเหนื่อย ทำงานในอนาคต
เมื่อคุณเเริ่มลงทุน กับตัวเองบางคน ออกเดินทาเที่ยวรอบโลก
ไปเจอธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าสนใจในต่างประเทศ แต่ในบ้านเรายังไม่มี
ก็นำไอเดียกลับมา ต่อยอดเป็นธุรกิจ ของตัวเองบางคน
ไปเรียนคอสการขาย เสริมหลังเลิกงาน อาจไม่ได้รวยในทันที
แต่การได้ทำความรู้จัก คนมากมายก็นำพา โอกาสดีๆเข้ามาในชีวิต
ได้เหมือนกันบางคน ไปเข้าฟิตเนสออกกำลังกาย จนค้นพบช่องทางธุรกิจ
เปิดยิม ขายอาหารเสริม สำหรับคนรักสุขภาพ หลายปี ผ่ า นไ ปคุณจะพบว่า
เงินที่คุณใช้ไป ทำให้คุณค่าของ ตัวเองเพิ่มขึ้น คุณได้คืนกลับมาหลายเท่า
จะเห็นว่าตั ว อ ย่ า ง ที่หยิบยกมานั้น ไม่ได้เจาะจงถึงอาชีพใด เพราะ
ทุกอาชีพล้วนมี โอกาสตกงานได้ทั้งนั้น แต่ยกตัวอย่ างให้เห็นถึงทัศนะคติ
ที่จะเป็นสิ่งตัดสินว่า คุณจะถูกแทนที่ หรือ ได้ไปต่อเมื่อก่อน ปลาเล็กกินปลาใหญ่
ตอนนี้ต้องเปลี่ยนเป็นปลาเร็วกินปลาช้า สิ่งใหม่ๆที่ปรากฏขึ้น
มักมาพร้อมกั บโอกาสทางธุรกิจ แต่เมื่อโอกาส ผ่ า น ไป คนที่ช้า
ก็จะไม่มีทางได้ สัมผัสในยุคนี้ พวกเราต้องมีสัญชาตญาณ ของวิกฤต
ค้นหาและแก้ไข้ ข้อบกพร่องของตัวเอง อ ย่ า ง ทันท่วงที เพื่อที่จะพัฒนาต่อไป
ในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น สิ่งใหม่ๆที่ปรากฏขึ้น มักมาพร้อม กับโอกาสทางธุรกิจ
แต่เมื่อโอกาส ผ่ า น ไป คุณจะพบว่าคุณถูกคนอื่นๆ ทิ้งไว้ข้างหลังแล้วเหมือน
ที่เราเริ่มเห็น กันแล้วในทุกวันนี้ แท็กซี่ที่ไม่ซื่อสัตย์ จะถูกอูเบอร์แย่งงาน
พนักงานที่ไม่ขยัน และ ไม่พัฒนาตัวเอง จะถูกหุ่นยนต์ เข้ามาแทนที่
เถ้าแก่ที่ไม่ขยัน จะถูกแย่งตลาดโดย คู่แข่งที่ขยัน และ เก่งกว่า
ขอขอบคุณที่มา bitcoretech, 108resources