3 นิสัย ที่จะทำให้คุณดูแย่
1 เราอาจกลายเป็นคนข ี้โกหกโดยไม่รู้ตัว
เวลาที่เราพูดโกหก ส ม อ ง ส่วนที่รับรู้ความทรงจำ ด้านอารมณ์ Amygdal
จะถูกกระตุ้นให้เรารู้สึก ไม่สบายใจ ขึ้นมา อ ย่ า ง ไรก็ตาม นักวิจัยด้าน
วิทย าศาสตร์และส ม อ ง เผยว่า หากเราโกหกเป็นประจำ ส ม อ ง ของเราจะเคยชิน
และเลิกรู้สึกผิด ไปโดยป ริย า ย เรากลายเป็นคนที่ข ี้โกหกเป็นนิสัย และโกหก
ได้ตั้งแต่เรื่อง ข ี้ปะติ๋วจนถึงเรื่องใหญ่ เป็นเพราะว่าการโกหก เป็นเรื่องง่าย
สำหรับเราไปแล้ว ถ้าเราไม่ อ ย า ก กลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ ก็ควรจะหลีกเลี่ยง
การพูดเท็จ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร คำโกหกก็ยังคงเป็น คำโกหกอยู่วันยันค่ำ
ดังนั้น อ ย่ า ทำให้ การโกหกเป็นเรื่องปกติ สำหรับเราเลยจะดีกว่า
2 เราเห็นอกเห็นใจผู้อื่นน้อยลง
งานวิจัยหนึ่งศึกษา เกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างด้านความรู้สึก
และการโกหก กับผู้ทดลองมากกว่า 2,500 คน ผลพบว่า ความสามารถ
ในการ เข้าใจความรู้สึก ต่อผู้อื่นถดถอยลง ในกลุ่มคนที่พูดโกหก
เป็นประจำแน่นอนว่า ความสามารถในการอ่านอารมณ์ และภาษากาย
เป็นเรื่องสำคัญ เมื่อต้องเข้าสังคม หากเรารับรู้ถึง ความรู้สึกของผู้อื่น
ได้น้อยลง เราอาจเผลอทำเรื่องแย่ๆ หลาย อ ย่ า ง เช่น พูดจา รุ น แ ร ง
พูดจาให้คนอื่นอับอาย หรือไม่ก็พูดโกหกจนสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น
ยิ่งเราตระหนักไม่ได้ว่า การกระทำของเรา กำลังสร้างความเสียหาย
เรายิ่งเสี่ยงต่อการเผลอก ระทำอะไรบา งอ ย่ า ง ที่ผิดกฎหมาย และผิดศีลธรรม
ซึ่งในกรณีนี้ จะเป็น อั น ต ร า ย ต่อทั้งผู้อื่น และตัวเราเอง
3 ทำ ร้ า ย คนสำคัญทางอ้อม
หลายๆ ครั้งที่เราเลือกโกหก เพื่อถนอมน้ำใจ ก็เพราะว่าเราเป็นห่วง
ความรู้สึกของคนที่เรารัก อ ย่ า ง ไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจออก มาตรงกันข้าม
หากคนคนนั้นรู้ในภายหลังว่า คำพูดของเราเป็นเพียง แค่คำลวงหลอก
เพื่อให้อีกฝ่าย สบายใจนอกจากนั้น การไม่พูดความจริง ยังส่งเสริม
ให้คนเข้าใจว่าสิ่งที่เขา ทำเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ส่งผลให้ไม่มีการพัฒนา
ให้ถูกต้องหรือแก้ไข ให้ดียิ่งขึ้นในงานวิจัยงานหนึ่ง พบว่าเจ้านายมักจะให้
Feedback ผลการทำงาน ต่อพนักงานหญิง อ ย่ า ง อ้อมๆ ไม่พูดตามตรง
เพราะกลัว พนักงานเสียความรู้สึก ขณะเดียวกัน เจ้านายมีแนวโน้ม ที่จะบอก
พนักงานชายตรงๆ มากกว่าว่าผลการทำงาน ของเขาเป็น อ ย่ า ง ไร การโกหกเพื่อ
ถนอมน้ำใจในกรณีเช่นนี้ ไม่ต่างกับการตัดโอกาส ความก้าวหน้าของ คนคนหนึ่งเลย
เลิกโกหก อ ย่ า ง ไรดี
อันดับแรกคือคอย สังเกตตัวเองว่าเวลาที่เราโกหก เรามักจะโกหกเรื่องอะไร
กับใคร เหตุการณ์ประเภทไหน ที่กระตุ้นให้เราทำเช่นนั้น และเรารู้สึกกับการกระทำ
นั้น อ ย่ า ง ไร หากเราให้ คำตอบต่อคำถามเหล่านี้ได้ เราค่อยหา วิธีแก้หลายๆ คนพบว่า
เราโกหก ในเวลาที่เราไม่กล้าปฏิเสธ ตัว อ ย่ า ง เช่น เวลาที่เพื่อน ชวนออกไปเที่ยว
เราหาข้ออ้างมาบอกว่าเรา ไม่ว่าง ทั้งๆ ที่จริงแล้วเราไม่ อ ย า ก ไป ในตอนท้ายเรา
ก็มารู้สึกผิดเองเสียด้วยซ้ำ ในกรณีนี้เราต้อง ทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า การเลือกเวลา
ส่วนตัวนั้นไม่ใช่เรื่องผิด เราทุกคนต้องมีขอบเขต ของตัวเองส่วนคนที่พบว่า
เราโกหกเพราะเรา เป็นคนอธิบายไม่เก่ งและกลัวว่าคนฟังจะเข้าใจผิด จึงเลือก
ที่จะไม่อธิบายดีกว่า ก็อาจแก้ปัญหานี้ได้โดยการ ฝึกการสื่อ ส า ร ใ ห้ดียิ่งขึ้น
และหมั่นฝึกบ่อยๆคำโกหก สีขาว ที่เราทำเพื่อ รั ก ษ า ค วามสัมพันธ์ สามารถสร้างรอยร้าว
และทำให้โลกของใครบางค นหม่นหมองไปทั้งใบได้ง่ายๆ ดังนั้นเราควรคำนึงถึง
ผลลัพธ์ให้ดี ก่อนตัดสินใจพูดอะไร เพราะการโกหก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แม้จะฟังดู
ไม่ ร้ า ย แรง แต่ก็ก่อให้เกิดผลเสีย ต่อตัวเราเอง และผู้อื่น อ ย่ า ง คาดไม่ถึง
ขอขอบคุณที่มา forlifeth