11 แนวคิด เมื่อเราเป็นหนี้แต่ยังมีความสุขได้
1 อ ย่ า เป็นคน รั ก ษ า หน้ามาก บางคนมอง การเป็นหนี้คนอื่น เป็นการบอกว่า
เราด้อย ไม่มีเงิน ไม่มีทรัพย์สมบัติ ทนไม่ได้ที่ต้องเป็นหนี้ ก็เลยไม่กล้า
ล ง ทุ น ทำอะไร หรือ ยอมไปหาเงินมาจากที่อื่นๆ ที่ไม่เหมาะสมแทน
เช่น เล่น ก า ร พ นั น เ สี่ ย ง โ ช ค ยอมขายตัวขาย ศักดิ์ศรีแลกเงิน แ ย่
กว่าการเป็นหนี้ สถาบันการเงิน เสียอีก
2 มองโลก ในแง่ดีให้มาก คิดว่าการที่ ติ ด หนี้สิน เพื่อการพัฒนา พิสูจน์ความสามารถ
ในการบริหารจัดการเงิน แต่ก็ห้ามคิดว่า พัฒนามากเกินไปจนกลาย เป็นฟุ้งเฟ้อ
ไม่รู้จักพอ ที่ แ ย่ คือคิดเอา เงินในอนาคตมาใช้ โดยไม่รู้จักบริหาร
จัดการให้ดี อ ย่ า ง นี้ก็เป็นหนี้ หัวโต
3 บอกตัวเอง เสมอว่าคนที่ เ ค รี ย ด ควรเป็นเจ้าหนี้ อ ย่ า มองเพียง แค่ว่าเจ้าหนี้
มีความสุข จากการได้ ด อ ก เ บี้ ย เงินกู้อย่างเดียว มีเจ้าหนี้จำนวนมาก ก็ขาดทุนไปไม่น้อย
ซึ่งควรจะช่วยกัน ทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ เพื่อให้เกิดความ พึงพอใจทั้งสองฝ่าย อ ย่ า เอาเปรียบกันดีที่สุด
4 มองว่าการมีหนี้ ก็เพื่อการฝึกควบคุมตนเอง และฝึกการบริหารจัดการ
เรื่องเงินเรื่อง ทองให้ได้ ถ้าทำได้ ฝ่ า ฟั น ได้จะเป็นผู้มี ประสบการณ์แกร่งขึ้น
5 ผู้ไม่มีทรัพย์สิน อะไรให้ขายชดใช้หนี้ อ ย่ า ลืม ทรัพย์สินทางปัญญา
ต้อง พ ย า ย า ม หาออกมาใช้ให้มากที่สุด เชื่อว่าไม่มีทรัพย์
ใดจะมีค่ามาก ไปกว่าปัญญา ของเราเอง
6 เผื่อใจสำหรับ การใช้หนี้ไม่ได้ อาจต้องยอมขาย หรือเสียอะไรบาง อ ย่ า งบ้ าง
เพื่อให้สามารถ บริหารจัดการหนี้ได้ อ ย่ า เป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบ ยึด ติ ด กับวัตถุมากเกินไป
เงินทองของ นอกกายไม่ ต า ย ก็หาใหม่ได้ อ ย่ า ไปปักใจอยู่กับคุณค่าของ
วัตถุมากเกินไป เพราะคุณค่าที่เกิดขึ้นเกิดจากใจ ของเราต่างหากที่ไปสร้าง เงื่อนไขทางความคิดตัวเอง
7 การเป็นหนี้ในแง่ ดีคือว่าคุณยังเป็น คนที่มีเครดิตอยู่ อ ย่ า ง ไรก็ตาม
ถ้าขอใครแล้วเขา ไม่ให้ยืมก็กลับมาทบทวน บอกตัวเองว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
อ ย่ า ไปหวัง ใครจะมาช่วยเรา ถ้าเรายังไม่เริ่มต้น คิดช่วยเหลือตนเอง
8 คิดหา ทางเลือกอื่นๆ ไว้เมื่อหนี้มีปัญหา อ ย่ า คิ ด สั้ น ๆ อ ย่ า ลืมว่า
ปัญหามักจ ะมีทางออกสำหรับ ผู้ที่ฝึกคิดเสมอ
9 ถ้าโดนเจ้าหนี้ ทวงอยู่เรื่อยๆ ใช้วิชาการเจรจาต่อรอง แสดงความจริงใจ
ว่าจะผ่อนส่งให้ ถ้าเขา อ ย า ก ได้มากกว่าที่ เราสามารถให้ได้ ก็ตอบไปตรงๆ
ว่าไม่สามารถ ทำได้ในเวลานั้น แต่จะ พ ย า ย า ม หามาให้ เพราะเขาเอง
ก็กลัวจะไม่ได้เหมือนกัน ฉะนั้น หาข้อตกลง รอมชอมดีที่สุด อ ย่ า เ ค รี ย ด
ไปก่อนเพราะกลัวว่า จะทนต่อการถูกทวงไม่ไหว อ ย่ า ลืมว่าเจ้าหนี้บางราย
เป็นพวกจู้จี้จุกจิก ย้ำคิดย้ำทำ ซึ่งควรเห็นใจเขา เพราะเงินของใคร ก็หวงห่ว งเป็นธรรมดา
10 คนที่ ค่อนข้าง เ ค รี ย ด คิดมากเรื่องการเป็นหนี้ ให้สำรวจต นเองว่าเป็นคน
วิ ต ก กั ง ว ล เกินไปหรือไม่ ส่งผลต่อชีวิต อ ย่ า ง ไร เช่น ทำให้ขยันขึ้น ทำให้หมดเรี่ยวแรง
ในการต่อสู้ กับปัญหากันไหม ถ้าเป็นประเด็นหลังอาจ ต้องรับการ บำ บั ด
รั ก ษ า ทางด้าน สุ ข ภ า พ จิตจะดีกว่า หากปล่อยไว้ ชีวิตจะค่อยๆ
หมด พ ลั ง ในการดำเนิน ชีวิตในที่สุด
11 ฝึกตนเองมุ่งมั่น ในการทำงานไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดเรื่อง การเป็นหนี้อยู่ใน
ส ม อ ง ให้มากนัก มีความรับผิดชอบ ต่อชีวิตและหนี้สิน เมื่อนั้นจะรู้สึก
มีความสุขมาก และ จะภูมิใจที่เราเป็นคนที่มี ความรับผิดชอบที่ดี ให้ชมตัวเองบ่อยๆได้
ผมคิดว่าไม่ จำเป็น อ ย่ า มีหนี้ดีที่สุด หากต้องมีขอให้มี หนี้สินเพื่อเป็นทรัพย์สิน
ที่มั่นคงในอนาคต มากกว่าหนี้สูญ เช่น หนี้จากการฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายในสิ่งที่ ไ ร้ ส า ร ะ
หาความสุข ที่มากเกินพอดี การเล่น ก า ร พ นั น ติ ด ย า เ ส พ ติ ด เป็นต้น
ดูๆ ไปก็น่าเหนื่อยใจไม่น้อย ขอเป็นกำลังใจให้คนที่ กำลังมีหนี้อยู่ด้วย
ว่าความ พ ย า ย า ม อดทน อยู่ที่ไหนหนี้ทางใจ ก็จะไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป
แต่ถ้า ไม่สามารถจัดการได้ คุณอาจจะ ป่ ว ย เพราะหนี้ ได้เช่นกัน
ขอขอบคุณที่มา Matichon Online, verrysmilejung