(เรื่องเตือนใจ) ใกล้ถึงอายุ 50 ปี ต้องทำให้ได้แต่ อ ย่ า ไปหวังพึ่งหรือคาดหวังอะไรจากคนอื่น
ในซอยบ้าน จะมีหมาตัวนึงมันคงไม่ค่อยชอบขิ้หน้าผมเท่าไหร่ ทุกครั้งที่ผมเดิน ผ่ า น หน้าบ้านมันมันจะเห่า กระโจนใส่ประตูเหล็ก อ ย่ า ง บ้าคลั่งปานกับว่าผมเคยไป ฆ่ า แม่มันตุย เวลาผมไปซื้อของหน้าปากซอย
ผมเคยเล่าให้ พ่อฟังว่าไม่กล้าไปกลัวหมา พ่อบอกผมว่าไม่ต้องกลัวหรอก หมาที่ดุที่สุดให้ลูกชิ้นมันทุกวันๆ ซักวันมันก็จะเชื่องเอง นับแต่วันนั้นผมเจียดเงิน5บาท ซื้อลูกชิ้น1ไม้ ผมกินสองลูกแบ่งหมา2ลูกทุกวัน
วันแรกๆมันแทบ จะกระโดดกัดมือผมให้ได้ ถ้าไม่มีประตูเหล็กผมคงมือขาด ไปแล้ววันเวลา ผ่ า น ไปไม่นาน มันไม่เห่าผมอีกเลยกระดิก หางรอผมทุกเย็น วันหนึ่งเจ้าของบ้าน ปิดประตูไม่สนิทมันวิ่งกระดิกหาง
มาหาผมหยอกเล่น กับผมสนุกสนาน ตั้งแต่วันนั้นเราเป็นเพื่อนกันวิ่งเล่น กันมาโดยตลอดโตมา ผมจึงนึกถึงคำพ่อสอน หมาที่ว่าดุๆเราหยิบยื่ นไมตรีให้มอบความเป็นมิตรให้ ดุแค่ไหนก็กลายเป็นเชื่อง
แต่กับคนต่อให้เราดี แค่ไหนจริงใจแค่ไหนเลี้ยงอาหาร ดีแค่ไหนก็ยังหักหลังเราได้ลูกชิ้น ไม่กี่ไม้ซื้อใจหมาได้ตลอดชีวิต กับคนต่อให้เลี้ยงดีแค่ไหนก็เชื่อใจไม่ได้จริงๆ หมาที่ว่าดุ ยังไม่น่ากลัวเท่าใจคน
อ ย่ า ดูถูกหมา เพราะมันซื่อสัตย์กว่าใคร บางคนบางคน ก็ดีด้วยจริงๆ บางคน ก็ดีแค่ต่อหน้า บางคน ก็เอาเราไปนินทาบางคน ก็คอยอิจฉาเรา หน้าที่ของเราก็แค่ รั ก ษ า คนดีๆไว้ส่วนคนอื่นก็แค่ ผ่ า น เข้ามา
ในชีวิตแค่เรา อ ย่ า เสียความเป็นตัวเราก็พอ ไม่จำเป็นต้องฉลาดกับเรื่องที่ ควรแกล้งโง่อาจเป็นทางเลือก ที่ดีกว่าถ้าเราดีกับใคร เค้าจะดีตอบกลับมา แต่โลกแห่งความเป็นจริงสอ นเราว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป
ขอขอบคุณที่มา forlifeth