เรื่องเตือนใจ เวลาของพ่อกับแม่อาจเหลือไม่มากจงดูแลท่านดีๆ
คุณแม่ ช ร า คนหนึ่ง เดินเข้าไปหาหนังสือพิมพ์ในห้องของลูกชาย เผอิญลูกชาย กลับบ้านมาพอดี ลูกชายหัวเสียมาจากการเจรจาการค้า การเจรจาครั้งนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ ลูกค้าไม่ยอมสั่งออร์เดอร์ตามเดิม
จึงรู้สึกหงุดหงิดมาก เมื่อเห็นแม่กำลังควาน หาอะไรบนเตียงของเขา ความหงุดหงิดบวกกับความไม่พอใจ จึงตวาดออกไปว่า แม่ มาทำอะไรที่ห้องผม อ ย่ า ยุ่งของๆ ผมนะ ผมบอกแม่กี่ครั้งแล้ว แม่ของเขาหันมา อธิบายแก่ลูกชายว่า
แม่หาหนังสือพิมพ์ ก็เลยนั่งบนเตียงของแกแป๊บเดียวเอง ลูกชายแสดงสีหน้าไม่พอใจเป็น อ ย่ า ง ยิ่ง ก่อนเดินออกจากห้อง แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า อยู่บ้านก็ไม่ทำอะไร ว่างมากหรือไง
เที่ยงคืนของคืนนั้น แม่ชราผู้อ าภั พได้สิ้นใจ โดยที่ลูกชายยังไม่ทันได้ร่ำลาเลยสักคำ ท่ านขงจื้อกล่าวไว้ว่า การปรับสีหน้าให้เป็นปกติ คือกตัญญู เหตุใดการปรับสีหน้าให้เป็นปกติ คือความกตัญญู ก็เพราะการจะทำสีหน้า ให้ปกติเป็นเรื่อง ย า ก
กับข้าวอยู่ที่โต๊ะนะ กินไปเลยไม่ต้องรอ ห นู งานยุ่ง ของพวกนี้ราคาแพงนะ เวลาใช้ก็ประหยัดหน่อยนะแม่ ดึกขนาดนี้จะมานั่งรอผมทำไม ผมโตแล้วนะ วันหลังไม่ต้องนะแม่ รู้ไปถึงไหนผมก็อายไปถึงนั่น เรางานยุ่งถึงขนาดนั่งกินข้าว
กับพ่อแม่ได้ได้เลย หรือหากของที่ซื้อมาในราคาแพงนั้น เราเอาไปให้เจ้านาย เราจะกล้าพูดแบบนี้ไหม ความห่วงหาอาทร ที่พ่อแม่มีต่อลูก มันไม่เคยจางหายไปจากใจ ขอบคุณท่าน เมื่อเห็นท่านนั่งรอ คุณกลับบ้าน
เหมือนตอนขอบคุณเพื่อนๆ ที่นั่งรอ เวลาคุณไปงานเลี้ยงสาย คุณทำกับคนอื่นได้ แต่กับพ่อแม่ คุณทำไม่ได้เลยหรือท่านบรมครูขงจื้อจึงกล่าวไว้ว่า ย า ม ท่านอยู่ เลี้ยงดูด้วยความเคารพ ย า ม ปรนนิบัติ ให้ความสุขสบาย
ย า ม ท่าน ป่ ว ย ให้การดูแลเอาใจใส่ หากวันหนึ่งท่านจากไป ให้ความอาลัย อ ย่ า ง สุดซึ้ง ย า ม บูชาเซ่นไหว้ ให้ความสำรวม ได้โปรดระลึกว่า วันหนึ่งเราทุกคนก็ต้องแก่ เพียงแต่พ่อแม่แก่ก่อนเรา สิ่งที่เราควรมีก็คือ ความเข้าใจ
และปฏิบัติต่อท่าน เหมือนที่เรา อ ย า ก ได้จากลูกหลานในอนาคต เราจึงมีความเพียรในการดูแล ไม่ปรักปรำพร่ำบ่น ย า ม ท่านอยู่ ดูแลเอาใจใส่ท่านเพิ่มอีกสักนิด เพราะเวลาของเรานับกันเป็นปี แต่เวลาของท่านอาจ นับเป็นวันแล้วก็ได้
ขอขอบคุณที่มา นุสนธิ์บุคส์, aanplearn