เริ่มอ่านเตือนใจตอนอายุ 30 ปี ในอายุ 50 ปีต้องทำให้ได้
ในซอยบ้านจะมี หมาตัวนึงมันคงไม่ค่อยชอบ ข ี้หน้าผมเท่าไหร่ ทุกครั้งที่ผมเดิน ผ่ า น หน้าบ้านมันมันจะเห่า กระโจนใส่ประตูเหล็ก อ ย่ า ง บ้าคลั่งปานกับว่าผมเคยไป ฆ่ า แม่มันตุย เวลาผมไปซื้อของ
หน้าปากซอย ผมเคยเล่าให้พ่อฟังว่าไม่กล้าไปกลัวหมา พ่อบอกผมว่าไม่ต้องกลัวหรอก หมาที่ดุที่สุดให้ลูกชิ้น มันทุกวันๆซักวันมันก็จะเชื่องเอง นับแต่วันนั้นผมเจียดเงิน5บาท ซื้อลูกชิ้น1ไม้ผมกินสองลูก
แบ่งหมา2ลูกทุกวันวันแรกๆ มันแทบจะกระโดดกัดมือผมให้ได้ ถ้าไม่มีประตูเหล็กผมคงมือขาดไปแล้ววันเวลา ผ่ า น ไปไม่นานมันไม่เห่า ผมอีกเลยกระดิกหางรอผมทุกเย็น วันหนึ่งเจ้าของบ้านปิดประตู
ไม่สนิทมันวิ่งกระดิกหาง มาหาผมหยอกเล่นกับผมสนุกสนาน ตั้งแต่วันนั้นเราเป็นเพื่อนกันวิ่งเล่นกัน มาโดยตลอดโตมาผมจึงนึกถึงคำพ่อสอน หมาที่ว่าดุๆเราหยิบยื่น ไมตรีให้มอบความเป็นมิตรให้
ดุแค่ไหนก็กลายเป็นเชื่อง แต่กับคนต่อให้เราดีแค่ไหนจริงใจแค่ไหน เลี้ยงอาหารดีแค่ไหนก็ยังหักหลัง เราได้ลูกชิ้นไม่กี่ไม้ซื้อ ใจหมาได้ตลอดชีวิต กับคนต่อให้เลี้ยงดีแค่ไหน ก็เชื่อใจไม่ได้จริงๆ หมาที่ว่าดุ ยังไม่น่ากลัว
เท่าใจคน อ ย่ า ดูถูกหมา เพราะมันซื่อสัตย์กว่าใคร บางคนบางคนก็ดีด้วยจริงๆ บางคนก็ดีแค่ต่อหน้า บางคนก็เอาเราไปนินทาบางคนก็คอยอิจฉาเรา หน้าที่ของเราก็แค่ รั ก ษ า คนดีๆไว้ส่วนคนอื่นก็แค่ผ่ านเข้ามา
ในชีวิตแค่เรา อ ย่ า เสียความเป็นตัวเราก็พอ ไม่จำเป็นต้องฉลาดกับเรื่อง ที่ควรแกล้งโง่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ถ้าเราดีกับใครเค้าจะดีตอบกลับมาแต่โลกแห่งความเป็นจริง สอนเราว่ามันไม่ได้เป็น แบบนั้นเสมอไป
ขอขอบคุณที่มา forlifeth