เทคนิคการรับมือ เมื่อคุณเจอคนหน้าไหว้หลังหลอก
เริ่มต้น เพราะ อ ย า ก ช่วย แต่สุดท้ายความ ซ ว ย มาเยือน บางคนเวลาเดือดร้อนมา ขอความช่วยเหลือ เราก็ให้ความช่วยเหลือเต็มที่แต่พอถึงเวลาเรา ขอความช่วยเหลือจากเขา กลับทำครึ่งๆ กลางๆ
หรือบ่ายเบี่ยงหายหน้า ทั้งๆ ที่เขาสามารถช่วยเหลือได้ แต่ก็นี่แหละ ในสังคมที่ทุกคนคิดถึง แต่ผลประโยชน์ตัวเองก่อนเสมอ เมื่อมีผลประโยชน์ก็เข้ามา เมือหมดผลประโยชน์ก็จากไปบางทีเราก็รู้ไม่เท่าทัน คนหน้าไหว้หลังหลอก
ไม่ใช่เพราะรู้ไม่เท่าทัน แต่เป็นเพราะ ความไว้ใจ บางครั้งดูคนผิด ไม่ใช่เพราะ ต า บ อ ด แต่เพราะ ใจดีเกินไป บางครั้งช่วยคนผิดไม่ใช่เพราะ โ ง่ แต่เพราะ เห็นแก่ความรู้สึก บางครั้งจำยอม ไม่ใช่เพราะไร้เหตุผล
แต่เพราะ ไม่ อ ย า ก เอาชนะ ใจคน ย า ก หยั่งโดยแท้ แต่ จะคงความดีงาม ไม่เสียใจ เพราะยังเชื่อเสมอ ว่าหากใจคนงาม โลกก็งาม กาลเวลาพิสูจน์ทุก อ ย่ า ง และ ทุก อ ย่ า ง อธิบายน้ำใจคน
น้ำไม่หยั่ง ไม่อาจรู้ตื้นลึก คนไม่คบ ไม่อาจรู้ดี ชั่ วในโลกนี้ มีเพียงกาลเวลา ไม่หลอกลวงกาลเวลาเท่านั้น จะพิสูจน์ทุก อ ย่ า ง ว่า ใครจริง ใครลวง ดูคน อ ย่ า เพียงดูด้วยตา จะดูผิดได้ง่าย ยิ่งไม่ควรเพียงฟังด้วยหู
เพราะล้วนคำเท็จ มีเพียงอาศัยเวลา สัมผัสด้วยใจกาลเวลานั้นดีพิสูจน์ใจคน เป็นประจักษ์ พ ย า น ในนิสัยคนใครเป็นคนจริงใ ครเป็นคนหลอกลวง กาลเวลาจะบอกได้เองการเป็นคนดี ก็ต้องเป็นคนดีให้พอเหมาะ พอควร
การทำดี ก็ต้องทำดีให้พอเหมาะพอควร การเป็นคนดีเกินไป ใคร ๆ ก็จะไม่เกรงใจ และมักเอาเปรียบเสมอ การทำดีเกินไป ใคร ๆ ก็จะไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำไป แต่กลับเห็นเราเป็นคน โ ง่ ที่ยอมเสียเปรียบคนอื่นตลอดเวลา
การเป็นคน ดีเกินไป หรือ การ ทำดีเกินไป นั้น ย่อมนำความเดือดร้อน มาสู่ตนเอง มิหนำซ้ำ ยังเป็นการส่งเสริมให้คนอื่นได้ใจ และชอบ เอารัดเอาเปรียบ ต่อไปเรื่อยๆ คนดีต้อง รักตนเอง ก่อนจะทำดี อ ย่ า ง ไร ก็ อ ย่ า ให้ตนเองเดือดร้อน
และควร ทำดีให้ถูกคน ทำดีกับคนที่รู้จักสำนึกในความดี ของคนอื่น หากคนไหนไม่สำนึกไม่จดจำความดี ของคนอื่นเราก็จงเลิกทำดีกับเขา เอาเวลาของเราไปทำดี กับคนที่ดีจะดีกว่าเสียเวลา ให้กับคนที่ชอบ เอารัดเอาเปรียบ
ขอขอบคุณที่มา วิภาดา กิตติโกวิท , b i t c o r e t e c h, verrysmilejung