Home แนวคิดชีวิต จงเลี้ยงลูกในแบบคนจน ต่อให้รวยแค่ไหน เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ความลำบาก

จงเลี้ยงลูกในแบบคนจน ต่อให้รวยแค่ไหน เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ความลำบาก

6 second read
0
1,522
จงเลี้ยงลูกในแบบคนจน ต่อให้รวยแค่ไหน เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ความลำบาก

จงเลี้ยงลูกในแบบคนจน ต่อให้รวยแค่ไหน เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ความลำบาก

ในวันนั้น ผมได้พาลูกไปร้าน เครื่องเขียนแห่งหนึ่ง ลูกของผมอย ากได้กล่องดินสอ

มองหน้าพ่อแล้วบอกว่า อ ย า ก ได้แบบนี้แบบนี้ ลูกของผมเลือก แบบหรูหรา

แต่ผมให้ซื้อแค่แบบ ธรรมดาที่ใช้งานได้เหมือนกัน ลูกทำหน้างอทันที ร้องอย ากได้

ไม้บรรทัด ก็ อ ย า ก ได้แบบสวยงาม แต่ผมก็ให้เลือกแบบ แค่พื้นฐานใช้งาน

ได้เหมือนกันเพียงเท่านั้น ลูกก็ทำหน้าหงิกห น้างอเข้าไปอีก ผมไม่ได้ว่าอะไร

ตั้งใจก่อนนอนคืนนี้ จะชี้แนะลูกด้วยการเล่า นิทานเปรียบเปรย ให้เข้าใจหลังจาก

ได้เป็นพ่อคนแล้ว ผมตั้งใจจะเลี้ยงลูกไม่ให้เหมือนแบบ ที่ชาวเอเชียเขานิยมทำกัน

ที่มักไม่ยอมให้ลูกลำบาก ดูแลปกป้องแบบไข่ในหิน ประคบประหงมเกินพอดี

หลายปี ผ่ า น ไป ผมรู้สึกว่าวิธีการเลี้ยงลูกขอ งผมจะลำบากมากขึ้นทุกวัน

จนกระทั้งวันหนึ่ง ผมได้ อ่ า น จดหมายเปิดผนึกฉบับหนึ่ง ที่โพสต์ลงในบอร์ด

ของมหาวิทย าลัยนานกิง จดหมายจากผู้ใช้นานว่า พ่อผู้ ข ม ขื่ น เขียนถึงลูกเขา

ที่เป็นนักศึกษา ในมหาวิทย าลัยนั้น แต่ไม่ได้เปิดเผยชื่อลูก จดหมายฉบับนี้มีคุณค่ามาก

ในสายตาของผม ถึงลูกรักของพ่อแม้ลูก จะทำให้พ่อ ทุ ก ข์ ใจเกินบรร ย า ย แต่ลูก

ก็ยังเป็นลูก ของพ่ออยู่วันยังค่ำ หลังจากที่ลูกสามารถสอบ เข้ามหาวิทย าลัยได้แล้ว

อาจเป็นเพียงคนเดียว ของตระก ูลเราในรอบหลายชั่ วอายุคนที่ทำได้สำเร็จ

หลังจากนั้นพ่อชัก ไม่แน่ใจว่าตกลงใครเป็นพ่อ และใครเป็นลูกกันแน่ต่อมลูกหมาก

ของผมลดลง 3 เท่า เมื่อลองทำวิธี รั ก ษ า วิธีนี้ พ่อช่วยแบก สัมภาระไปส่งลูกถึงหอพัก

ช่วยกางมุ้ง ปูที่นอนซื้อกับข้าวกับปลา ต้องสอนแม้กระทั่งวิธีบีบ ย า สี ฟั น

ออกจากหลอด ทั้งหลายทั้งปวง ดูเหมือนว่ามันเป็นหน้าที่ ที่พ่อสมควรต้องทำให้

ไม่ได้ยินคำว่าขอบคุณสักคำ จากลูกตั้งแต่ต้นจนจบ รู้สึกด้วยซ้ำว่าเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่

ที่พ่อผู้ด้อยความสามารถ คนนี้มีโอกาสได้รับใช้ลูกทูนหัว ที่บัดนี้ได้เป็นนักศึกษา

ผู้ทรงเกียรติ ไปแล้วปีแรกทั้งปี ที่บ้านได้รับจดหมายจากลูกสามฉบับ ข้อความรวมกัน

แล้วอาจ ย า ว กว่าข้อความใน โทรเลขหนึ่ง ฉบับสักหน่อย ข้อความย่นย่อ ลายมือหวัด

อ่ า น ย า ก มีแต่คำว่า เงิน นี่ตั้งใจเขียนได้ ชัดเจนที่สุดพอขึ้นปีที่สอง จดหมาย

มาแบบถี่ๆ ล้วนขอเงินเพิ่ม ลีลาการเร่งเร้าให้ส่งเงิน ข้อความที่เรียกร้อง ความเห็นใจ

รับรู้ได้ถึงว่า หากเรียนจบแล้ว ลูกสามารถไปยึดอาชีพ เป็นพวกเจ้าหน้าที่เร่งรัดหนี้สิน

ได้เยี่ยมแน่นอน แต่สิ่งที่ทำให้พ่อ เ จ็ บ ป ว ด ที่สุดนั้น มาจากการที่ลูกอาจหาญ

ถึงขั้นปลอมแปลงตัวเลข จำนวนเงินที่ต้องจ่าย ค่าหน่วยกิตของมหาวิทย าลัย

ไม่คิดว่าลูกจะใช้วิธีนี้ มาหลอกลวงเงินทอง จากผู้เป็นพ่อแม่ที่ให้กำเนิด เลี้ยงดู รักใคร่

ลูกมาตลอด เพียงเพื่ออย ากได้เงินเพิ่ม ไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ และร้องคาราโอเกะ

คิดถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่ก็ เ จ็ บ ป ว ด เมื่อนั้น นอนไม่หลับ จนกลายเป็น โ ร ค ซึ ม เ ศ ร้ า

สาเหตุก็มาจากลูก คนที่พ่อเลี้ยงดู ด้วยมือจนเติบใหญ่ แต่กลับกลายเป็นคนแปลกหน้า

ในร่างของนักศึกษา ขอภาวนาในใจว่า นอกจากวิชาความรู้ ต่างๆที่ลูกจะเรียนรู้

จากสถาบันการศึกษาแล้ว ลูกจะกรุณาพัฒนาจิตใจ ให้เป็นคนซื่อสัตย์ และกตัญญู

รู้คุณด้วยก็จะเป็นเรื่อง ที่ดีที่สุดหลังจากได้ อ่ า น จดหมายฉบับนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าผม

ยังต้องเดินหน้าทำตามนโยบาย ในการดูแลลูกตาม ที่ตั้งใจไว้แต่แรก แม้จะรู้ว่ามันค่อนข้าง

ลำบากในสังคม ของเรามีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนสมัยเรียนที่ย้ ายไปออสเตรเลีย กลับมาเยี่ยมบ้าน

มีโอกาสได้นั่งคุยกัน เขาเล่าว่า คนออสเตรเลียนอกจาก เชื่อถือในพระเจ้าแล้วอีกสิ่งหนึ่ง

ที่พวกเขาเชื่อมั่น ก็คือ วิธีการเลี้ยงลูกแบบ จะรวยแค่ไหน ก็ต้องเลี้ยงลูกแบบจน

พวกเขาเชื่อว่า เ ด็ ก ที่เติบโตขึ้น มาภายใต้การดูแล ปกป้องมากไปของพ่อแม่

เมื่อโตแล้วจะไม่มีปัญญา ที่สามารถยืนอยู่ บนลำแข้งตัวเอง และก็จะไม่มีวันสำนึก

บุญคุณคนอื่น แม้กระทั่งพ่อแม่ตนก็ ตามวันถัดมาเรามีโอกาส ออกไปทำธุระด้วยกัน

เจอฝนระหว่างทางเขา เห็น เ ด็ ก น้อยถูกห่อหุ้มด้วย ผ้านวมอย่ างหนากลมไปหมด

ทั้งตัวจนดูคล้าย ลูกบอลยัดนุ่น เขาบอกว่า เ ด็ ก ควรจะใส่เสื้อผ้าน้อย กว่าผู้ใหญ่หน่อย

เขาเล่าว่าในออสเตรเลีย แม้หน้าหนาวก็จะ ไม่เห็น เ ด็ ก ที่ถูกห่อแบบ ลูกบอลยัดนุ่น

เหมือนที่เห็น หรือในวันแดดจ้า แม้ เ ด็ ก จะนั่งอยู่ในรถเข็น เ ด็ ก แต่คนเป็นแม่ ก็จะทำใจแข็ง

ไม่ยอมดึงที่บังแดด ออกมากันแดดให้ลูก เ ด็ ก ที่วิ่งเล่นแล้วหกล้มเอง พ่อแม่ก็จะยืนดูเฉยๆ

ให้ลูกลุกขึ้นมา ด้วยตัวเขาเอง ต่างๆ นาๆ ล้วน พ ย า ย า ม ให้ลูกฝึกช่วยตัวเอง

และอดทนให้มากที่สุด ธรรมเนียมของครอบครัว ชาวเอเชีย อ ย่ า ง พวกเรา

หลักการที่ยึด ติ ด มานานกับนโยบายที่ว่า จะ ย า ก จนแค่ไหน ก็ไม่ยอมให้ ลูกต้องลำบาก

สงสัยจะถึงเวลาต้อง ทบทวนกันใหม่ได้แล้ว การเลี้ยงลูกของสัตว์ ทั้งหลายในโลกนี้

ตอนลูกยังเล็กและอ่อนแอ บางชนิดอมลูกไว้ในปาก บางชนิดซุกลูกไว้ใต้ปีก

กลัวลูกๆจะไม่ปลอด ภั ย แต่พอลูกเริ่มโต ได้ที่แล้วพวกเขา จะไล่ลูกออกไป อ ย่ า ง

ไร้เยื่อใย ให้ลูกไปเผชิญ กับโลกภายนอกเอง ไปฝึกวิทย ายุทธเอง ไปเผชิญปัญหา

และมรสุมทุกรูปแบบ แล้วชีวิตจะไม่เจอทางตัน เห็นหรือยังว่าแม้แต่ สัตว์ทั้งหลาย

ก็ยังรู้ถึงหลักการที่ว่า โอ๋ลูกจนไม่ลืมหูลืมตา ก็คือการ ฆ่ า ลูกแบบเลื อ ดเย็น

จะรวยแค่ไหน ก็ต้องเลี้ยงลูกแบบจน ด้วยวิธีนี้จะบังคับให้ลูกๆ ทั้งหลายรู้จักยืนอยู่

บนลำแข้งตัวเอง และรู้จักสำนึกและตอบแทนบุญคุณ คนเป็นพ่อเป็นแม่สิ่งหนึ่ง

ที่ไม่ควรลืม ถึงแม้คุณจะห่วงด้วย วิธีปกป้องหรือโอ๋ลูกขนาดไหนก็ตาม คุณคง

ไม่มีปัญญาตามไปวุ่นวาย หรือดูแลพวกเขาใน ช่วงครึ่งหลังของชีวิตเขา

เพราะตอนนั้นคง ได้เวลาที่คุณจะ ได้หลับ ย า ว ไปแล้ว

ขอขอบคุณที่มา ขจรศักดิ์, verrysmilejung

Check Also

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า 1 งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ แม้ไม่ใช่งาน ในค…