Home แนวคิดชีวิต เหตุผล 10 สิ่ง ที่บ่งบอกว่าเพื่อนสมัยมัธยมคือเพื่อนที่ดีที่สุด

เหตุผล 10 สิ่ง ที่บ่งบอกว่าเพื่อนสมัยมัธยมคือเพื่อนที่ดีที่สุด

6 second read
0
14,671
เหตุผล 10 สิ่ง ที่บ่งบอกว่าเพื่อนสมัยมัธยมคือเพื่อนที่ดีที่สุด

เหตุผล 10 สิ่ง ที่บ่งบอกว่าเพื่อนสมัยมัธยมคือเพื่อนที่ดีที่สุด

1 ไม่มีเปลือก มีแต่ตัวตนจริงๆ ใครเป็นใคร อ ย่ า ง ไร เห็นกันหมด ใครเรียนเก่ง

ใครอ่อน ใครโง่ ฉลาด ขยัน ข ี้เกียจ แม่กระทั่ง พ่อแม่เป็นใคร มีสตางค์

หรือไม่มี รู้กันหมด ไม่ต้องมาทำฟอร์มใส่กัน

2 ไม่มีผลประโยชน์ เพื่อนสมัยมัธยม ไม่มีผลประโยชน์ เข้ามาเกี่ยวข้อง

คบกันได้เพราะ มึ ง กับ ก ู เหมือนๆกัน ไม่ใช่เพราะจะพึ่งพา อะไรกันมากมาย

อ ย่ า ง ดีก็แค่ ขอก ูลอก การบ้าน มึ ง หน่อย พอเอาไปส่งครู ตอบผิดด้วยกันทั้งคู่เลย

ก็มีบ่อยๆ เพราะไปลอกของมัน ดีมั๊ยดี ทำเองยังอาจจะ ถูกบ้างบางข้อ

3 รู้จักกันถึงพ่อ ถึงแม่ ถึงพี่น้อง บ้านช่อง รู้ใส้ รู้พุงพุงกันหมด สนิทกับแบบ

ไม่มีอะไรปิดกั้น สนิทกันขนาดเรียกชื่อ เพื่อนเป็นชื่อพ่อมัน จนกระทั่ง

เรียนจบก็มี บางทีเรียกชื่อมัน ซึ่งเป็นชื่อพ่อเพื่อน พ่อมันขานเราก็มี

เพราะพ่อมัน นึกว่าเรียกเขา ที่ดีคือ เพื่อนมันไม่เคยโกรธเลย

4 หัดจีบสาวพร้อมๆกัน ด้วยลีลาที่นึกถึงทุกวันนี้ ยังเกิดคำถามกับตัวเองว่า

ก ูทำไปได้ยังไง แต่ก็เป็นการจีบ แบบใสๆซื่อๆ ทั้งๆที่รู้ว่า จีบไปก็เท่านั้น

เหมือนหมาเห็น ปลากระป๋องยังไงยังงั้น เล่ากันเมื่อไหร่ ก็ฮากันเมื่อนั้น

บางทีนึกดีใจด้วยซ้ำ ที่ไม่จีบเป็นจริงเป็น จังจนขอแต่งงาน เพราะมาเจออีกที

หลังเกษียณ แก่ไม่มีที่ติจริงๆ จริงๆ ก็แก่ทั้งคู่นั่นแหละ ระหว่างเรากับเขา

5 ทำอะไรโง่ๆเหมือนกัน วัยมัธยมเป็นวัยรอยต่อ ของความเป็น เ ด็ ก กับวัยรุ่น

ที่กำลังจะโตเป็นผู้ใหญ่ จึงมีเรื่องโง่ๆ ให้ทำเยอะมาก ทุกคนในกลุ่มที่คบกัน

จะมีเรื่องโง่ๆให้ทำ แตกต่างกันออกไป จนไม่มีใครดูฉลาดกว่า กันในสายตา

ของผู้ใหญ่ เพราะคิดทำการแต่ละเรื่อง มีแต่เรื่องโง่ๆ ทั้งนั้น มันเลยคบกัน

ได้มา ย า ว นาน เพราะไม่ต้องมีใคร อายใครนั่นเอง

6 กิน นอน เที่ยว ด้วยกัน วัยมัธยม เป็นวัยที่ ติ ด กันยังกับตังเม ไปไหนไปกันเป็นฝูง

เกาะกลุ่มกันแน่น กินก็กินด้วยกัน ทั้งๆที่ไม่ค่อย จะมีอะไรให้กิน นอนก็นอน

เกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยกัน หลับได้เพราะเพลีย ที่ไปทำทะโมนมาทั้งวัน

ความผูกพันมันจึงถูก หล่อหลอมจนเป็นเนื้อเดียวกัน วันละนิด ละหน่อย จนแยกกันไม่ออก

7 โดนครูดุ ด่า ทำโทษมาด้วยกัน จนไม่เหลือ ย า ง อายอะไรให้อายอีกแล้ว

ใหม่ๆอาจจะอายเพื่อน สนิทที่เป็นผู้หญิงเป้าหมายตา ที่อยู่ในห้องเดียวกัน

พอนานเข้า ทั้งเขาและเราก็ชินกันไปเอง จนไม่มีใครอายใคร

8 มีอดีตและวีร ก ร ร ม ร่วมกันมา ย า ว นาน เพื่อนที่คบกัน มาจนสนิท แนบแน่น

จะมีประวัติศาสต์ หรือวีร ก ร ร ม ที่ร่วมทำกันมามากมาย หลายรสชาติ

จนเล่ากี่ครั้งก็ไม่มีวันหมด ทุกครั้งที่กลับไปเยี่ยมเยียน สถาบันที่เคยเล่าเรียนกันมา

ก็จะจดจำ ภาพได้ทุกภาพ ว่าอะไรอยู่ตรงไหน มะม่วงต้นไหนที่ใครเคยปีน

ใครโดนครู ทำโทษตรงไหน อ ย่ า ง ไร ฯลฯ จำได้หมด

ล้วนเป็นวีร ก ร ร ม แบบโง่ๆไม่แตก ต่างกันเท่าไหร่

9 ขอเงินกันกินขนม แทนการขอยืม ด้วยที่สมัยนั้น ทุกคนได้เงินมา

โรงเรียนไม่มากมายอะไร แค่หลักสิบบาทเท่านั้น จะต่างกันไปตามฐานะ

ของแต่ละบ้านบ้าง แต่ก็ไม่กี่บาทความอดอย ากปากแห้ง จึงมาเยือนชนิด

ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ การขอเงินเพื่อนกินขนม หรืออเมริกัน แ ช ร์

หรือให้เพื่อนเลี้ยง จึงเป็นเรื่องปกติ การขอยืม เงินเพื่อนสมัยนั้น

ไม่ค่อยมี ให้เห็น มีแต่ ขอเลย หรือ ขอลืมเท่านั้น

10 เรามาพบเจอกัน ในแต่ละครั้งหลัง จากจบการศึกษา เราได้เห็นวิวัฒนาการ

และการเติบโต ของเพื่อนในกลุ่มแต่ละคน พร้อมกับได้รื้อฟื้นความหลัง

ความทรงจำเก่า ที่เราร่วมทำกันมา นัยหนึ่งก็เหมือนเป็น การลดอัตตา

ตัวตนของตนเอง ไปในเวลาเดียวกันว่า ไม่ว่าวันนี้ทุกคน จะมาไกลแค่ไหน

แต่เราก็มี จุดเริ่มต้นที่ไม่ต่างกันคือ ความเป็นเพื่อนที่ไม่มีกีดขวางระหว่าง มึ ง กับก ูไปได้เท่านั้นเอง

ขอขอบคุณที่มา ดร.พนม ปีย์เจริญ, kubkhao

Check Also

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า 1 งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ แม้ไม่ใช่งาน ในค…