Home แนวคิดชีวิต (เรื่องเตือนสติ) อย่าทำงานหนัก จนลืมครอบครัว

(เรื่องเตือนสติ) อย่าทำงานหนัก จนลืมครอบครัว

6 second read
0
1,438
(เรื่องเตือนสติ) อย่าทำงานหนัก จนลืมครอบครัว

(เรื่องเตือนสติ) อ ย่ า ทำงานหนัก จนลืมครอบครัว

ขยันมากไป มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีเลย และเรื่องต่อไปนี้ คือ ค่าโ ง่ จากคนบ้ างานที่อย ากสอนคนบ้ างานให้เข้าใจ เมื่อทุกอย่ างมีราค าที่ต้องจ่าย ไม่มีอะไรได้มาฟ รีๆ แล้ว

บางครั้งความสำเร็จ ก็ต้องแลกด้วย การสู ญเสียบาง อ ย่ า ง เมื่อ 39 ปีที่แล้ว ผมเอง ได้เริ่มต้นทำงานกับบริษัทการเงิน ที่มีขนาดใหญ่ อันดับ 3 ของโลกเมื่อ 35 ปีที่แล้ว

ผมได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรัก เราสัญญาว่าจะสร้างอนาคตร่วมกัน เธอคนนั้นจะเป็นคนข้างหลัง เพื่อให้ผมประสบความสำเร็จ ทางการงาน และในขณะที่การงาน ของผมก้าวหน้าไปมาก

เมื่อ 29 ปีที่แล้ว ภรรย าของผม ได้คล อ ด ลูกชายคนแรกให้ผม ขณะที่ผม ติ ด ประชุม ที่ ญี่ ปุ่ น และผมขอโท ษเธอ ผมสัญญากับเธอว่า จะขอเวลาทำงาน อีกสักระยะ

เพื่อครอบครัวให้ได้สบายกว่านี้ แล้วผมกลับเมือง ไ ท ย รับขวัญลูก และขอโท ษภรรย าด้วยตำแหน่งงาน ที่ก้าวหน้า ฝันของเราใกล้เป็นจริงแล้ว เมื่อ 24 ปีที่แล้ว

เธอคล อ ดลูกสาว ที่เราเฝ้ารอคอย และผมเองได้เห็นหน้า ลูกสาวเพียงวันเดียว เพราะต้องเดินทางไป ประชุมใหญ่ที่ออสเตรเลีย ผมบอกกับเธอว่าจะทำงานอีก

ไม่นานแล้วเวลาทั้งหมดที่มี จะเป็นของครอบครัวตลอดไป เพื่อทดแทนเวลาที่ ผ่ า น มา เมื่อ 13 ปีที่แล้ว งานของผมได้ก้าวหน้า จนก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 2 ในภาคพื้นเอเชีย แปซิคฟิคซึ่งมันเป็น

เรื่องที่ดีมาก แต่ภรรย าผมเธอขอ หย่ าเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ที่ เธอบอกว่าผมไม่เคยให้เธอ แล้วสุดท้ายเธอบอกว่า ชีวิตคู่ ไม่ได้ต้องการแค่ทรัพย์สิ นเงินทอ งจนเกินเก็บแต่ต้อง

การความอบอุ่นมั่นใจ จากอ้อมกอดคนเป็นสามี เติมเต็มในคืน อ้างว้างมากกว่า แล้วเธอก็แยกจากไป ส่วนลูกปู่และ ย่ า  ท่านจะดูแล อ ย่ า ง ดี เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

ลูกชายคนโตซ้ อนท้ายมอเตอร์ไซด์ เพื่อนประส บอุ บั ติเห ตุและเขาได้จากไป ผมบินกลับจาก ญี่ ปุ่ น ทั้งๆ ที่มีงานสัมนาสำคัญ และแม่บอกว่า ลูกชายเกเรเลี้ยงย าก

ผมกอดลูกสาว บอกกับเธอว่าพ่อไม่ดีเอง ต่อไปพ่อจะให้ทุก อ ย่ า ง ขอเวลาอีกนิดนะ เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ก่อนแม่สิ้นใจ แม่บอกกับผมว่า อ ย่ า เอาแต่ ทำงาน จนลืมว่าลูกต้องการ

อ้อมกอด จากพ่อ อ ย่ า ปล่อยให้เธอ รอคอย อ ย่ า ง ตั้งตารอ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว พ่อจากไป ตามแม่ญาติๆ ก็พากันพูดคุยโดย ที่ผมแอบได้ยินว่าพ่อตรอมใจที่แม่จากไป กับเรื่องหลานสาว

ตามผู้ชายข้าง บ้านไปอยู่ทางใต้ แกมัวโท ษ แต่ตัวเองว่า เลี้ยงหลานได้ไม่ดี ขณะที่ผมก้าวสู่ จุดสูงสุดทางการงานแล้ว ผมมีทุก อ ย่ า ง ที่ต้องการและสิ่งที่ผมได้มา ไม่มีอะไรได้มาฟ รี

เพราะการสู ญเสียบาง อ ย่ า ง แลกกับความสำเร็จมันคุ้มค่าจริงหรอ ต่อไปผมจะกลับไป ชดเชยเวลาที่ผมโก ง ไปจากครอบครัว และล่าสุด 3 ปีที่แล้ว หมอบอกว่า

ผมเป็นโร คซึ มเศร้าต้องกินย า น่าแปลกอยูนะ ที่ผมมีครบทุก อ ย่ า ง แต่กลับอ้างว้าง คนที่รักจริงๆ ก็ไม่มี มีแต่คนจ้องจะกอบโกย ไม่มีใครเหมือนพ่อแม่ภรรย าและลูกๆ

ของผมเลยตอนนี้ ผมเข้าใจ สิ่งที่ภรรย าผมบอกแล้ว ถึงตอนนี้แล้วมันสายไป ไม่มีใครทนรอคอยย าวนาน ผมยอมแลกทุก อ ย่ า ง กับการเป็น คนหาเช้ากินค่ำ พออยู่พอกิน

แค่ให้ได้ อยู่ร่วมกับ ทุกคนสักช่วงชีวิตหนึ่งก็ยังดี ใครที่เป็นแบบผม คิดให้ดีนะ ว่ามันคุ้มหรือเปล่า

ขอขอบคุณที่มา profession-j55

Check Also

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า 1 งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ แม้ไม่ใช่งาน ในค…